"ทีเอ็มบี" ก้าวสู่อันดับหนึ่ง "การเงินที่เป็นธรรม" จากผลการประเมินโดยแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย หรือ Fair Finance Thailand ในปี 2562 ที่ผ่านมา ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจการธนาคารที่ยั่งยืน ด้วยการบริหารความเสี่ยงและสร้างคุณค่าในระยะยาวให้ธนาคารและสังคม พร้อมเดินหน้าสร้างนิยามใหม่วงการธนาคาร มุ่งสู่เป้าหมายในการสร้างชีวิตทางการเงิน หรือ Financial Well-being ที่ดีขึ้นให้แก่คนไทยทั้งประเทศ
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (ทีเอ็มบี) เปิดเผยว่า ทีเอ็มบีเล็งเห็นถึงความสำคัญของภาคการธนาคารในการช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยและโลกของเราไปสู่ความยั่งยืน ผ่านการดำเนินธุรกิจบนแนวคิดการธนาคารที่ยั่งยืน (Sustainable Banking) ภายใต้การกำหนดนโยบายที่ชัดเจน การดำเนินงานที่โปร่งใสและเป็นธรรม มุ่งสร้างสังคมให้เข้มแข็งและมีความเป็นอยู่ที่ดีผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ลูกค้าตลอดช่วงชีวิต พร้อมคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอันเป็นเสมือนคำมั่นสัญญาที่มีต่อผู้บริโภคว่าธนาคารจะดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผลกระทบในระยะยาวต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
โดยทีเอ็มบีได้รับคะแนนสูงสุด เป็นอันดับ 1 จากการประเมินของแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย ประจำปี 2562 ซึ่งการประเมินครอบคลุมหมวดการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่เฉพาะเจาะจงสำหรับกลุ่มสถาบันการเงินตามแนวปฏิบัติของแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมนานาชาติ (Fair Finance Guide International) โดยพิจารณาข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะเพื่อประเมินในระดับนโยบายและแนวปฏิบัติที่ดี ซึ่งทีเอ็มบีแสดงเจตนารมณ์ถึงนโยบาย แนวทางการบริหารจัดการ ตลอดจนผลการดำเนินงานขององค์กรอย่างโปร่งใส ทั้งในด้านการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมต่อผู้บริโภค ธรรมาภิบาลที่ดีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ที่สอดคล้องต่อแนวปฏิบัติและมาตรฐานในระดับสากลตามแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
"การก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทีเอ็มบีในการขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปสู่ธนาคารที่ยั่งยืน ซึ่งทีเอ็มบีให้ความสำคัญและผลักดันเรื่องนี้มาโดยตลอด และมองว่าการเป็นธนาคารไม่ใช่เป็นเพียงเพราะเราได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยเท่านั้น แต่ต้องได้รับการยอมรับจากสังคมด้วย ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องสินเชื่ออย่างเดียวที่ทีเอ็มบีนำมาตอบโจทย์เรื่องความยั่งยืน แต่มีทั้งเรื่องการสร้างวินัยในการออมและการลงทุน รวมถึงโซลูชันทางการเงินอื่นๆ ที่ช่วยลูกค้าในการสร้างชีวิตการทางเงินที่ดีขึ้น"
ด้านนายนริศ อารักษ์สกุลวงศ์ หัวหน้ากลยุทธ์องค์กร ทีเอ็มบี กล่าวเสริมถึงการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance : ESG) ว่า ทีเอ็มบี มีแนวทางและนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องนี้ ซึ่งไม่ได้เกิดจากแรงกดดันภายนอก แต่เป็นแนวคิดของธนาคารเองที่ดำเนินการเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว เพราะมองว่าเป็นความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในระยะยาว อันเห็นได้จากนโยบายความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม (Environmental and Social Responsibility (ESR) Policy) ของธนาคาร เพื่อให้ความมั่นใจว่าความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจะได้รับการพิจารณา ประเมิน และบริหารจัดการอย่างเหมาะสมภายใต้กรอบความเสี่ยงของธนาคาร และธนาคารจะไม่ให้การสนับสนุนแก่ธุรกิจซึ่งไม่อยู่ภายใต้หลักการที่กำหนดไว้ในนโยบาย รวมทั้งพนักงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถในการสนับสนุนนโยบาย ESR ของธนาคารได้
"ทีเอ็มบีมองเรื่องความยั่งยืนและธุรกิจเป็นเรื่องเดียวกัน ไม่สามารถแยกทั้ง 2 เรื่องนี้ออกจากกันได้ เป็นเรื่องที่ต้องนำมาเชื่อมและบริหารจัดการร่วมกันในการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนของธนาคารสำหรับผู้มีส่วนร่วมทุกส่วน"