นักลงทุนกำลังเฝ้ารอการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2 หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์อย่างใจจดใจจ่อ เพราะเป็นปัจจัยชี้นำทิศทางตลาดหุ้นช่วงสั้น ทำให้บรรยากาศซื้อขายหุ้นสัปดาห์นี้เงียบเหงาลง ขณะที่ดัชนีหุ้นปรับฐานลง จนกังวลกันว่าอาจหลุดจากแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,300 จุด
ดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้นจนเกือบทะลุ 1,400 จุด มา 2 รอบแล้ว แต่ถูกผลกระทบจากปัจจัยลบ จนดิ่งลงเกือบหลุด 1,300 จุด มา 2 ครั้งแล้วเหมือนกัน โดยต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ถูกผลกระทบจากความหวั่นวิตกการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบสอง เพราะครอบครัวนักการทูตต่างประเทศและทหารจากอียิปต์ที่เดินทางเข้าประเทศไทยนำพาเชื้อเข้ามา
เชื้อไวรัสโควิด-19 กลับมาหลอนนักลงทุนอีกครั้ง และถือเป็นปัจจัยลบซ้ำเติม นอกเหนือจากความกังวลผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไตรมาสที่ 2 ซึ่งโบรกเกอร์ทุกสำนักคาดว่า กำไรจะลดลงจากไตรมาสแรก
สัปดาห์นี้เข้าสู่เทศกาลประกาศงบการเงินกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และหุ้นกลุ่มธนาคารมีโอกาสทรุด ฉุดดัชนีหุ้นดิ่งลงอีกระลอก โดยอาจถอยหลังไปตั้งหลักต่ำกว่า 1,300 จุด โดยไม่อาจประเมินได้ว่า ตลาดหุ้นจะกลับมาคึกคักเมื่อใด
เพราะระยะสั้นไม่มีข่าวดีที่รอคอย มีแต่ข่าวร้ายไหลทะลักมาไม่ขาดสาย โดยเฉพาะผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งยังแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในหลายประเทศทั่วโลก และอีกหลายประเทศอาจกลับมาแพร่ระบาดรอบสอง รวมทั้งประเทศไทยที่เพิ่มมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 นำเข้าอย่างเข้มงวดอีกครั้ง
สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เผยผลสำรวจการประเมินเป้าหมายดัชนีหุ้นปลายปีนี้จากโบรกเกอร์ต่างๆ โดย เป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1,383 จุด สูงกว่าระดับดัชนีหุ้นปัจจุบันไม่มาก สะท้อนมุมมองของโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ที่เชื่อว่า บรรยากาศการลงทุนครึ่งปีหลังคงไม่สดใสนัก
และโบรกเกอร์บางแห่งยังมีคำเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังความผันผวนที่จะเกิดขึ้นในตลาดหุ้น เพราะสถานการณ์แวดล้อมไม่น่าไว้วางใจ ทั้งในและต่างประเทศ
จีดีพีปีนี้จะติดลบมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ถูกปรับลดอย่างต่อเนื่อง ส่วนการเมืองเริ่มจะไม่นิ่ง เพราะการปรับ ครม.เศรษฐกิจกำลังจะเกิดขึ้น และไม่รู้ว่านักลงทุนจะมีปฏิกิริยาตอบรับอย่างไรกับทีมเศรษฐกิจชุดใหม่
ขณะที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยมี “โควิด-19” เป็นตัวช่วย เพราะทำให้กระแสการโจมตีรัฐบาลเงียบลง ขณะที่คะแนนนิยม พล.อ.ประยุทธ์ พุ่งขึ้น
แต่การปล่อยให้ชาวต่างชาติที่ติดเชื้อโควิด-19 เดินทางเข้าไปประเทศไทย โดยได้รับเอกสิทธิ์ ไม่ถูกกักตัว 14 วัน และไม่ถูกตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทำให้รัฐบาลถูกโจมตีอย่างหนัก จนอาจสร้างความสั่นคลอนในเสถียรภาพรัฐบาล และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน
แนวโน้มหุ้นระยะสั้นไม่อาจทำนายได้ว่าจะเคลื่อนไหวไปทางไหน แนวโน้มระยะปานกลางหรือครึ่งปีหลังก็ไม่มีสัญญาณฟื้น ส่วนแนวโน้มระยะยาวปีหน้าก็ไกลไปที่จะประเมิน จึงกำหนดกลยุทธ์การลงทุนได้ลำบาก
หาเงินจากตลาดหุ้นช่วงนี้ยากจริงๆ เพราะหุ้นเล่นยาก ช่องว่างการทำกำไรแคบ แต่ความเสี่ยงสูง เนื่องจากราคาหุ้นเปราะบางกับผลกระทบรอบด้าน
ดัชนีหุ้นดิ้นอยู่นอกกรอบ 1,300-1,400 จุดมาพักใหญ่แล้ว แต่แรงโน้มถ่วงมีโอกาสหลุด 1,300 จุด มากกว่าเด้งขึ้นไปทะลุ 1,400 จุด