นักวิเคราะห์ บล.กรุงไทย ซีมิโก้ ให้มุมมองการลงทุนหุ้นไทยและภาพเศรษฐกิจโลก ภายใต้วิกฤต COVID-19 ในไตรมาส 3 ผ่านสัมมนาออนไลน์ “Investment Outlook 3Q20 : หนทางข้างหน้ายังไม่ง่าย” โดยคาดแนวโน้มตลาดหุ้นไทย 3Q20E ผันผวนสูงขึ้น และเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,200-1,450 จุด
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงไทย ซีมิโก้ ให้มุมมองไว้ว่า “คาดแนวโน้มตลาดหุ้นไทย 3Q20E ผันผวนสูงขึ้น และเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,200-1,450 จุด โดยเฉพาะในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. ต่างจาก 2Q20 ที่เคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นจาก 1,125 จุด ไปสูงสุดที่ 1,454 จุด เนื่องจากมีสัญญาณเตือนจากหลายปัจจัยเสี่ยง เช่น การปรับลดประมาณการเติบโตเศรษฐกิจและผลกำไรบริษัทจดทะเบียน การระบาดรอบสองของ COVID-19 ที่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิด W-Shape Recovery ปัญหาการค้าจีนกับสหรัฐฯ อาจตึงเครียดมากขึ้น จากนโยบายหาเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์ เฟดเริ่มพิจารณามาตรการ Yield Curve Control เพื่อลดงบประมาณใช้จ่าย ส่วน Upside Risks จะมาจากพัฒนาการของวัคซีนรักษา COVID-19 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล”
ส่วนกลยุทธ์ลงทุน นายถนอมศักดิ์ได้แนะนำว่า “หากอิงจากผลสำรวจของสำนักวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐฯ ปี 1964-2015 พบว่าการลงทุนในหุ้นปันผลดีและหุ้นที่มีสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่ากลุ่มอื่นๆ ในช่วงเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ดังนั้น กรุงไทย ซีมิโก้ แนะนำพอร์ตลงทุน 1) หุ้นที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่งหรือมีผลกระทบน้อยจาก COVID-19 2) หุ้น Dividend Play และ 3) หุ้นที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในระยะยาว”
นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงไทย ซีมิโก้ ให้มุมมองการลงทุนทางเทคนิคัล โดยคาดว่า “ดัชนีจะยังคงเคลื่อนไหวอย่างผันผวน มีกรอบด้านล่างไว้ที่ 1,200-1,193 จุด ด้านบน 1,442-1,450 จุด โดยคาดว่าดัชนีถูกขับเคลื่อนจากเม็ดเงินที่ไหลเข้า-ไหลออกเป็นหลัก อย่างไรก็ดี คาดว่าดัชนีจะไม่ทรุดตัวลงแรงๆ จนสร้างจุดต่ำใหม่ เพราะสภาพคล่องในตลาดมีมาก ทำให้มองว่าการอ่อนตัวลงของดัชนีจะเป็นโอกาสทยอยสะสม ซึ่งเป็นลักษณะเหวี่ยงตัวขึ้นลงสลับไปมา”
ส่วนของกลยุทธ์การลงทุนในตราสารอนุพันธ์ นายภมร สุวรรณสาครกุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ ได้ให้กลยุทธ์ลงทุนไว้ว่า “ภาพรวม SET50 ฟื้นตัวจากต้นไตรมาส 2 จากระดับ 730 จุดมาเคลื่อนไหวที่บริเวณ 900 จุดได้ถือเป็นการฟื้นตัวที่รวดเร็วมาก และความผันผวนถึงแม้จะลดลง แต่ความเสี่ยงของ COVID-19 ยังไม่ได้หมดไป และมีโอกาสที่ดัชนีจะแกว่งตัวรุนแรงอีกรอบ หากดัชนีหลุด 850 จุดเราแนะนำให้เปิดสัญญา Short เพื่อเพิ่มโอกาสในการเก็งกำไร”
“ส่วนต้นไตรมาส 3 นี้ทาง TFEX ได้ประกาศ Stock Futures 12 ตัวใหม่ที่จะเข้าซื้อขายในวันที่ 13 ก.ค.นี้ ได้แก่ BPP EASTW JMT M MBK OSP THG TOA TPIPP TQM VNT WHAUP ซึ่งในอดีตหุ้นที่ถูกเลือกนำเข้ามาเทรดใน Stock Futures จะปรับตัวขึ้นในช่วง 1-2 เดือนแรก” นายภมรกล่าว