“อุตตม” เผยแพกเกจกระตุ้นเศรษฐกิจชุดล่าสุดจะใช้เงินกู้ 2.24 หมื่นล้านบาท คาด แผนดังกล่าวส่งผลกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในไตรมาส 3-4 และจะทำให้ภาคการท่องเที่ยวสามารถขยายตัวได้มากกว่าไตรมาสที่ผ่านมา ย้ำภาคท่องเที่ยวเป็นตัวผลักดันเศรษฐกิจครึ่งหลังของปี 63 เหตุเป็นเครื่องจักรที่สามารถใช้ประคับประคองเศรษฐกิจประเทศได้จริง
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการใช้งบประมาณตามแพกเกจเพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวว่า โดยเบื้องต้นจะใช้เงินกู้วงเงิน 2.24 หมื่นล้านบาท จาก พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ในส่วนของการกู้เงินเพื่อใช้ในโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจสังคม และภาคการท่องเที่ยว
โดยเชื่อว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) จะส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 3-4 ของปี 63 และโครงการดังกล่าวจะส่งผลกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวให้สามารถขยายตัวได้ดีกว่าไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวถือว่าเป็นกลไกที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และภาคการท่องเที่ยวถือว่าเป็นเครื่องจักรที่สามารถใช้ประคับประคองเศรษฐกิจของประเทศได้จริง และกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวนี้โดยจะเน้นให้คนไทยเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจากการกระตุ้นการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่สามารถดำเนินการได้
ส่วนการใช้มาตรการด้านภาษีเพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในเวลานี้จะยังไม่มี เนื่องจากการใช้มาตรการทางภาษีต้องพิจารณาตามความเหมาะสมและจำเป็น และยังไม่มีการพูดก่อนว่าจะทำหรือไม่ทำ อีกทั้งการจะออกมาตรการด้านภาษีได้นั้นจะต้องดำเนินการเป็นชุดตามสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้าจะมีข้อสรุปถึงการพิจารณาแหล่งเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ (ซอฟต์โลน) สำหรับธุรกิจสายการบินที่จะกำลังมาให้บริการใหม่ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่แพกเกจการท่องเที่ยวภายในประเทศที่กำลังจะออกมาด้วย
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงการให้ความช่วยเหลือเรื่องจ่ายเงินเยียวยาในกลุ่มตกหล่นจากการลงทะเบียนไม่สำเร็จตามโครงการเราไม่ทิ้งกันทั้ง 3 แสนรายที่ได้ผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีไปแล้วว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) พิจารณาข้อมูลที่ชัดเจนว่ากลุ่มดังกล่าวต้องเข้าสู่ความช่วยเหลือจากส่วนใดบ้าง เพื่อให้ความช่วยเหลือจากรัฐบาลสามารถดำเนินการได้อย่างครอบคลุมที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม คนกลุ่มนี้จะไม่ได้รับเงินเงินเยียวยา 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่แตกต่างจากกลุ่มที่รับเงินเยียวยาตามโครงการเราไม่ทิ้งกันทั้ง 15.1 ล้านราย ส่วนคนกลุ่มตกหล่นทั้ง 3 แสนคนจะได้รับความช่วยเหลือเงินเยียวยาจากรัฐบาลเป็นจำนวนเท่าใดนั้นยังต้องพิจารณาตามความเหมาะสมอีกครั้ง เพื่อเสนอขอใช้เงินกู้จากคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการเงินกู้ ซึ่งมีเลขาธิการสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นประธาน