โบรกเกอร์ประเมิน คาดเดือน มิ.ย.นี้ ต่างชาติยังพาเหรดซื้อหุ้นไทยอีก 1-1.5 หมื่นล้านบาท หนุน SET Index บวกเพิ่มได้อีก 14-21 จุด พร้อมตั้ง 7 ข้อสังเกตเงินไหลเข้ารอบนี้ หลังยังเดินหน้าซื้อหุ้นติดกันกว่าหมื่นล้านบาท อย่างไรก็ดี มองเหลือหุ้น Laggard ให้ซื้ออีกไม่มากแล้ว
บทวิจัย บล.หยวนต้า ประเมินถึงกระแสเงินต่างชาติที่กลับมาซื้อสุทธิในหุ้นไทย 4 วันทำการติดต่อกัน รวมกว่า 1.15 หมื่นล้านบาท ว่า ทำให้นักลงทุนในประเทศมีความหวังว่า Fund Flow จะเข้ามารับไม้ต่อและหนุน SET INDEX ให้เร่งตัวขึ้น ประเมินว่าในเดือน มิ.ย.นี้ ต่างชาติจะซื้อหุ้นอีก 1-1.5 หมื่นลบ. ซึ่งจะหนุน SET INDEX ได้ 14-21 จุด
ต่างชาติกลับเข้าซื้อหุ้นไทย 4 วันติดต่อกัน 1.15 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ หลังจาก MSCI ปรับน้ำหนักเมื่อ 29 พ.ค.63 นักลงทุนต่างชาติกลับเข้าซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง 4 วันทำการติดต่อกันรวม 1.15 หมื่นลบ. แต่ไม่ได้ซื้อเฉพาะหุ้นไทยอย่างเดียว เม็ดเงินไหลเข้าทั้งภูมิภาค ระหว่าง 1-2 มิ.ย.63 ซื้อสุทธิในไทย $110 ล้าน เกาหลีใต้ $209 ล้าน ไต้หวัน $1,104 ล้าน อินโดนีเซีย $ 166 ล้าน ฟิลิปปินส์ $ 21 ล้าน สาเหตุเป็นเพราะสภาพคล่องส่วนเกิน และคาดหวังเศรษฐกิจฟื้นตัว เพราะฉะนั้น Fund Flow ที่ไหลเข้าช่วงนี้จึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
ตั้ง 7 ข้อสังเกตฟันด์โฟลว์ โดยมีการตั้ง 7 ข้อสังเกต เงินไหลเข้ารอบนี้กับอดีต
(1) ยอด YTD ต่างชาติยังขายสุทธิอยู่ที่ -1.9 แสนล้านบาท และขายผ่าน NVDR -3.5 หมื่นล้านบาท
(2) ต่างชาติซื้อหุ้นไทยจริงจังครั้งล่าสุด มิ.ย.-ก.ค.62 ที่ 46,686 ล้านบาท และ 20,054 ล้านบาท ตามลำดับ หลัง MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักจาก 2.3% เป็น 2.8% เมื่อ 28 พ.ค.62
(3) SET INDEX มิ.ย.62 +6.8% MoM ก่อนจะอ่อนตัวลง -1.1% MoM ใน ก.ค.62 ขณะที่รอบนี้ เฉพาะ มิ.ย.63 ขึ้นมาแล้ว 4.9%
(4) Current PER ของ SET INDEX มิ.ย.-ก.ค.62 เท่ากับ 18.6 เท่า และ 18.5 เท่า ตามลำดับ ปัจจุบันอยู่ที่ 19.8 เท่า
(5) ช่วงที่ Fund Flow ไหลเข้าแล้วหนุนให้ SET INDEX ขึ้นไปเทรดบน Current PER ที่ 23-23.5 เท่า คือ มิ.ย.-ก.ย.59 ต่างชาติซื้อ 4 เดือนติดต่อกันรวม 1.14 แสนลบ. แต่เราคาดว่ารอบนี้จะไม่ไปถึงขนาดนั้น เพราะ GDP2559 +4.3% YoY และกำไรบริษัทจดทะเบียน +36% YoY ซึ่งปีนี้ติดลบทั้งคู่ ต่อให้เป็นปีหน้าก็ยังฟื้นตัวไม่เท่าปี 2559
(6) เงินบาท มิ.ย.-ก.ค.62 แข็งค่า 2.6% ส่วนเดือน มิ.ย.-ก.ย.59 แข็งค่า 3.3% ล่าสุด มิ.ย.63 แข็งค่า 1%
(7) ช่วงซับไพรม์ ต่างชาติซื้อ 8 เดือนติดต่อกันหลังมี QE ระหว่าง มี.ค.-ต.ค.52 รวม 6.36 หมื่นล้านบาท แต่เทียบช่วงซับไพรม์อาจไม่เหมาะสม Valuation และโครงสร้างตลาดต่างกันมาก
คาดต่างชาติจะค่อยๆ ซื้อ และยอดสะสมเดือนนี้จะอยู่ที่ราว 1-1.5 หมื่นล้านบาท การคาดเงินทุนไหลเข้าออกระยะหลังทำได้ยาก เพราะต่างชาติไปลงทุนผ่าน NVDR แทน ซึ่งเราพบว่าถ้านับรวมยอด NVDR ด้วย จะมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับ SET INDEX มากกว่าการพิจารณายอดซื้อขายหุ้นของต่างชาติอย่างเดียว โดยถ้าอิงจากแรงซื้อของต่างชาติแต่ละรอบ เราคาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าอีก 1-1.5 หมื่นล้านบาท ในเดือน มิ.ย.63 และจากการวิเคราะห์เชิงปริมาณ เราพบว่า เม็ดเงินทุก 1 หมื่นล้านบาท จะหนุนให้ SET INDEX ขึ้นได้ 14 จุด
เหลือหุ้น Laggard ให้ต่างชาติซื้ออีกไม่มาก
หยวนต้าประเมินว่า แรงซื้อของต่างชาติอาจไม่ได้หนุน SET INDEX รอบนี้ได้มากนัก เพราะ Current PER ขึ้นไปเทียบเท่าช่วง Flow ไหลเข้าในแต่ละรอบแล้ว ขณะที่ ตัวแปรบ่งชี้ทิศทางเงินทุนต่างชาติที่สำคัญ คือ ค่าเงินบาท ซึ่งจะไม่ได้เป็น Safe Haven เหมือนปีก่อนที่ได้แรงหนุนจากการท่องเที่ยว เราให้จับตาการเคลื่อนไหวของ USD/THB หากเงินบาทพลิกมาอ่อนค่าเร็วเกิน $ 31.70บาท ให้ระวังแรงขายของต่างชาติและการพักตัวของ SET INDEX ในระดับที่มีนัยสำคัญตามมา
สำหรับหุ้นขนาดใหญ่ที่ต่างชาติมีโอกาสกลับเข้าซื้อ จะเป็นหุ้นที่ถูกขายหนักในช่วงก่อนหน้า ซึ่งได้แก่ BBL/ KBANK/ KTB/ PTT/ PTTGC/ ADVANC/ INTUCH/ DTAC/ AOT/ BTS/ BEM/ LH/ CPALL/ CPN/ MINT/ RATCH/ BDMS โดยมีหุ้น Laggard ที่พอมี Upside ให้เก็งกำไรได้คือ ADVANC/ INTUCH/ DTAC/ CPALL/ CPN/ BTS/ MINT