xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.เผยคลินิกแก้หนี้ช่วยลดภาระลูกหนี้-เอ็นพีแอลลดลง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ธปท.เผยยา 2 ขนานของคลินิกแก้หนี้ ให้สิทธิเลื่อนชำระหนี้ และลดดอกเบี้ยเพื่อจูงใจให้จ่าย ทำให้ NPL ไม่เพิ่ม ลูกหนี้ไม่หลุดจากโครงการ และลูกหนี้ 72% มีภาระดอกเบี้ยลดลง

นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า โครงการคลินิกแก้หนี้ ซึ่งเป็นโครงการแก้หนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล ได้ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อรองรับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ผลของมาตรการช่วยเหลือดังกล่าวถือว่าน่าพอใจ กล่าวคือ ไม่มีลูกหนี้ต้องออกจากโครงการแม้สักรายเดียว ด้วยเหตุว่าผ่อนชำระค่างวดไม่ไหว ในขณะที่ลูกหนี้ที่ชำระค่างวดเข้ามา โครงการได้ช่วยเหลือโดยการลดดอกเบี้ยให้ 2% เพื่อลดภาระในช่วงนี้ อีกทั้งแนวทางช่วยเหลือของโครงการมีกระบวนการที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน เป็นตัวอย่างที่สถาบันการเงินอาจนำไปประยุกต์ในการออกแบบมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ในระยะต่อไปได้

นางธัญญนิตย์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า มาตรการช่วยเหลือประกอบด้วย 2 ส่วนสำคัญ เปรียบเหมือนลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับยา 2 ขนานเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ

ยาชนิดแรก - การผ่อนปรนให้สามารถเลื่อนงวดชำระ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 6 เดือนในช่วง เม.ย.-ก.ย.2563

ยาชนิดที่สอง - การปรับลดดอกเบี้ยลง 2% เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่าย และเป็นแรงจูงใจให้ผู้เข้าร่วมโครงการที่จ่ายค่างวดเข้ามาต่อเนื่อง โดยดอกเบี้ยในช่วงนี้เหลือเพียง 2-3%

โครงการฯ ผ่อนปรนเงื่อนไขให้สามารถจ่ายชำระเข้ามาเท่าที่ทำได้ เช่น ครึ่งหนึ่งของค่างวดที่เคยจ่าย ในกรณีนี้ก็ยังได้รับสิทธิพิเศษเรื่องการลดดอกเบี้ย

ผลของมาตรการมีหลายส่วนน่าสนใจ กล่าวคือ แม้จะให้สิทธิในการเลื่อนกำหนดชำระหนี้ หรือไม่ต้องจ่ายค่างวดแก่ลูกหนี้ทุกราย ปรากฏว่า มีลูกหนี้เพียง 28% ที่เลือกมาตรการนี้ ในขณะที่ลูกหนี้ที่เหลืออีก 72% ยังจ่ายค่างวดเข้ามาตามปกติ โดยลูกหนี้ 18% ชำระเข้ามามากกว่าค่างวด ส่วนใหญ่คือ 52% จ่ายค่างวดได้ครบ และมีเพียง 2% เท่านั้นที่จ่ายชำระได้เพียงบางส่วน

การออกแบบมาตรการช่วยเหลือที่ยึดลูกหนี้เป็นที่ตั้งคือ คำนึงถึงปัญหาความเดือดร้อน และข้อจำกัดของลูกหนี้ ช่วยให้โครงการสามารถตอบโจทย์ลูกหนี้ได้ทุกราย ทั้งรายที่ผ่อนไม่ไหวในช่วงนี้และรายที่สามารถจ่ายเข้ามาก็จะเสียดอกเบี้ยน้อยลง ในขณะเดียวกัน ก็ช่วยตอบโจทย์เจ้าหนี้ด้วยเช่นกัน เพราะไม่มีลูกหนี้ที่ต้องกลายเป็นหนี้เสีย และลูกหนี้ส่วนใหญ่ที่มีความสามารถยังผ่อนชำระเข้ามาต่อเนื่อง

ประชาชนที่มีหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล ที่สมัครเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ในช่วง เม.ย.-ก.ย.2563 จะได้รับสิทธิลดดอกเบี้ย 2% จากโครงการเช่นเดียวกัน โดยอัตราดอกเบี้ยที่ 2-3% ถือว่าผ่อนปรนมากเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยบัตรปกติที่ 18%

“วิกฤตโควิด-19 ถือเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ที่ทุกฝ่ายต้องช่วยเหลือ ผ่อนปรนซึ่งกันและกัน และการที่สถาบันการเงินและลูกค้าสามารถปรับโครงสร้างหนี้ร่วมกัน จะเป็นมาตรการทางเศรษฐกิจที่มีความสำคัญมากในระยะข้างหน้า” นางธัญญนิตย์ กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น