แม้มีข่าวร้าย การผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ออกมาเป็นระยะนับจากต้นปี แต่ราคาหุ้น บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP หุ้นในกลุ่ม บริษัท เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AEC กลับไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด แถมราคายังถูกลากขึ้นสวนทางข่าวร้ายอีกด้วย
ราคาหุ้น ACAP เมื่อวันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ปิดที่ 0.72 บาท เพิ่มขึ้น 1 สตางค์ หลังจากช่วงพักการซื้อขายวันเดียวกัน บริษัทฯ ได้แจ้งถึงการผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้รุ่น ACAP20NA ที่ครบกำหนดจ่ายดอกเบี้ยวันที่ 25 พฤษภาคม วงเงินเพียง 4.71 ล้านบาท
ตั้งแต่ต้นปี ACAP ผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้และผิดนักการไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดอายุมาอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างว่าลูกหนี้ไม่ยอมชำระหนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ขณะที่ทรัพย์สินรอการขายของบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจาก "โควิด-19" ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจกลับมาสู่ภาวะปกติ จะเร่งแก้ปัญหาสภาพคล่องให้กลับมาชำระหนี้โดยเร็ว
ACAP ดำเนินธุรกิจให้สินเชื่อภาคธุรกิจและสินเชื่อรายย่อย ธุรกิจบริการรับจ้างดำเนินงาน เช่น CALL CENTER การติดตามหนี้และที่ปรึกษากฎหมาย มีนางจารุณี ชินวงศ์วรกุล ถือหุ้นในสัดส่วน 24.79% ของทุนจดทะเบียน นางสุกัญญา สุขเจริญไกรศรี ถือหุ้น 14.72% และ AEC ถือหุ้น 1.33% โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อย 3,091 ราย ถือหุ้นรวมกันสัดส่วน 60.49% ของทุนจดทะเบียน
ผลประกอบการบริษัทชะลอตัวต่อเนื่อง โดยปี 2560 มีกำไรสุทธิ 255.42 ล้านบาท ปี 2561 กำไรสุทธิลดลงเหลือ 61.88 ล้านบาท ปี 2562 กลับมาขาดทุนสุทธิ 190.53 ล้านบาท และไตรมาสแรกปีนี้ขาดทุนสุทธิ 109.07 ล้านบาท
การผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ สะท้อนถึงปัญหาฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ซึ่งผู้ถือหุ้นกู้ได้รับผลกระทบไปแล้ว โดยไม่อาจคาดหวังได้ว่า จะได้รับการชำระหนี้เมื่อใด และจะมีปัญหาไม่ได้รับการชำระหนี้เหมือนหุ้นกู้บริษัทจดทะเบียนอีกหลายแห่งหรือไม่ ส่วนผู้ถือหุ้นสามัญตกอยู่ในฐานะเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบตามมา
วิกฤตสภาพคล่องของ ACAP เกิดขึ้นพร้อมกับ AEC ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น โดยหุ้น AEC ถูกแขวนป้าย SP พักการซื้อขายในวันที่ 25 พฤษภาคม เนื่องจากเงินสภาพคล่องสุทธิ (NC) ต่ำกว่าศูนย์ติดต่อกันเกิน 5 วันทำการ จึงเป็นเหตุให้ต้องระงับการดำเนินธุรกิจตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และราคาหุ้นทรุดลงรับข่าวร้ายไปก่อนแล้ว
แต่ราคาหุ้น ACAP กลับสวนทางกับข่าวร้าย โดยปีนี้ แม้จะเคยลงไปต่ำสุดที่ 38 สตางค์ เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากผลกระทบวิกฤต “โควิด-19” แต่หลังจากนั้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ทั้งที่มีข่าวร้าย ผิดนัดไถ่ถอนหุ้นกู้ และผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้มาเป็นระยะ
ผู้ถือหุ้นกู้ ACAP ทั้งหมดประมาณ 7 รุ่น เตรียมทำใจรับชะตากรรมแล้วว่า ต้องได้รับผลกระทบจากการผิดนัดชำระหนี้แน่ แต่จะหนักขนาดไหน ต้องรอประเมินสถานการณ์
ส่วนผู้ถือหุ้นสามัญจำนวนกว่า 3 พันชีวิต ซึ่งเชื่อว่าส่วนใหญ่ติดหุ้น ACAP ได้เตรียมตัวรับผลกระทบจากปัญหาสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้หรือยัง
เพราะแม้ราคาหุ้นดูเหมือนพยุงอยู่ได้ แต่ในที่สุด ถ้ากอบกู้วิกฤตฐานะทางการเงินไม่ได้ หุ้นคงจะทรุดลง
ผู้ถือหุ้นยังมีเวลาตัดสินใจที่จะผ่อนหนักเป็นเบา เพราะ น่าจะประเมินได้แล้วว่า อนาคต ACAP จะมีจุดจบอย่างไร