"ผอ.ออมสิน" เผยความคืบหน้ามาตรการการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยโดยอัตโนมัติ 6 เดือน ซึ่งจะจนถึงสิ้นเดือน ต.ค.63 สามารถช่วยลูกค้ารายย่อยและเอสเอ็มอีได้รวมกว่า 1.12 พันล้านบาท ขณะที่ยังได้อนุมัติเงินกู้ฉุกเฉินให้ผู้มีอาชีพอิสระและผู้มีรายได้ประจำรวมกว่า 7 พันล้านบาท คาดในเดือน มิ.ย. จะดำเนินการได้จนครบวงเงินสินเชื่อรวม 4 หมื่นล้านบาท ย้ำหลังหมดมาตรการผ่อนปรนจากรัฐบาลแล้ว ออมสินยังเตรียมออกมาตรการเสริมสภาพคล่องต่อเนื่องให้คนไทย โดยกำหนดเงื่อนไขปลอดชำระเงินต้นออกไปอีก 2 ปี เลือกชำระดอกเบี้ย 50-100% ได้ตามกำลัง และยังคืนดอกเบี้ยให้อีก 20% เพื่อแบ่งเบาภาระประชาชน
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินมาตรการเร่งด่วนของรัฐบาลในการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ว่า ความคืบหน้าของมาตรการการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยโดยอัตโนมัติเป็นระยะเวลา 6 เดือน จนถึงสิ้นเดือน ต.ค.63 มีผู้ที่ได้รับประโยชน์ ทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้าเอสเอ็มอีที่มีวงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาท รวม 2,894,333 ราย วงเงินรวม 1,129,652,000 บาท
ส่วนการดำเนินมาตรการให้เงินกู้ฉุกเฉิน 10,000 บาทต่อราย สำหรับผู้มีอาชีพอิสระ และ 50,000 บาทต่อราย สำหรับผู้มีรายได้ประจำ วงเงินรวม 40,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีผู้ยื่นกู้แล้ว จำนวน 2,344,479 ราย และได้ส่งข้อความนัดให้มายื่นเอกสารแล้ว 1,672,498 ราย โดยได้ดำเนินการอนุมัติไปแล้วกว่า 290,000 ราย คิดเป็นวงเงิน 7,160 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จสิ้นเดือน มิ.ย.63 ซึ่งธนาคารเร่งดำเนินการซึ่งมีปริมาณงานมากกว่างานปกติถึง 10 เท่าตัว และไม่มีวันหยุด
ขณะที่มาตรการให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ (ซอฟต์โลน) 150,000 ล้านบาทนั้น ได้มีผู้ยื่นกู้แล้ว 12,188 ราย วงเงินรวม 130,985.25 ล้านบาท โดยปัจจุบันธนาคารออมสินได้อนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 103,976.87 ล้านบาท และยังคงเหลือวงเงินที่กำลังทยอยอนุมัติอีก 46,023 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าภายในเดือน มิ.ย.นี้ จะอนุมัติได้จนหมด อย่างไรก็ตาม ล่าสุดธนาคารฯ ยังได้อนุมัติซอฟต์โลนอีก 2,000 ล้านบาท ให้แก่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อนำไปปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ 2% ให้แก่สำนักงานธนานุเคราะห์ (สธค.) เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่นำทรัพย์สินมาจำนำในช่วงนี้ให้ได้ดอกเบี้ยต่ำด้วย
“ท่ามกลางความตึงเครียดนี้ ธนาคารออมสิน ยินดีดูแลผู้ได้รับผลกระทบที่เดินเข้ามาหาเรา ด้วยมุ่งหวังให้คนไทยสามารถดำเนินชีวิตฝ่าฟันผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไปให้ได้ ทั้งนี้หลังจากหมดมาตรการผ่อนปรนต่างๆ ของรัฐ รวมทั้งการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือนแล้ว ธนาคารออมสินยังมีมาตรการเสริมสภาพคล่องต่อ โดยให้มีการปลอดชำระเงินต้นออกไปอีก 2 ปี โดยเลือกชำระดอกเบี้ย 50-100% ได้ตามกำลัง และยังคืนดอกเบี้ยให้อีก 20% เพื่อแบ่งเบาภาระประชาชนอีกด้วย” ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวย้ำ
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะเป็นไปตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลัง ได้กำหนดกรอบแนวทางให้ธนาคารออมสิน ออกมาตรการช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน ซึ่งตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมานับจากเกิดการแพร่ระบาด ธนาคารออมสินได้ออกมาตรการช่วยเหลือรองรับผู้ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งที่เป็นลูกค้าและไม่ใช่ลูกค้าของธนาคาร รวมถึงการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟต์โลนแก่สถาบันการเงิน นอนแบงก์ ตลอดจนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี อีกทั้งยังดำเนินการรับเรื่องร้องทุกข์จากมาตรการลงทะเบียนขอรับเงินชดเชยรายได้จากประชาชนที่ลงทะเบียนแล้วยังไม่ได้รับการช่วยเหลืออีกด้วย
นายชาติชาย ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 1-2 เดือนนี้ จะเห็นได้ว่ามีผู้มาติดต่อที่สาขาธนาคารออมสินเป็นจำนวนมาก หลายสาขามีคนเข้าแถวรอจนล้นออกมานอกสาขาเป็นคิวยาวมาก ท่ามกลางการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งธนาคารฯ ได้ปฏิบัติตามแนวทางที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ทั้งในส่วนของการรับลูกค้าและการให้บริการของพนักงาน โดยหลายธุรกรรมได้แนะนำให้ลูกค้าใช้บริการออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ เช่น การลงทะเบียนสินเชื่อฉุกเฉินรายย่อย ซึ่งสะดวกและรวดเร็วกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงการพบปะกัน เสี่ยงต่อการติดเชื้อ