“รมช.คลัง” สั่ง "ธสน." ปรับกลยุทธ์หนุนผู้ส่งออกเจาะตลาดใหม่รายประเทศ เร่งสำรวจและจัดทำข้อมูลตลาดใหม่เอื้อผู้ส่งออก แนะให้ประสานทูตพาณิชย์เพื่อชี้ช่องทางขยายตลาดใหม่ เช็กสินค้ารายประเทศที่ขาดแคลน เพื่อผู้ประกอบการไทยจะได้หาช่องทางส่งออกไปได้ ย้ำหวังให้ ธสน. ต้องเป็นคำตอบในการที่จะรีสตาร์ทการส่งออกที่ชะงักไปให้กลับมา และเป็นองค์กรหนึ่งที่สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทยมากกว่าการปล่อยกู้หรือค้ำประกันการส่งออกแต่เพียงอย่างเดียว
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังผู้บริหารธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เพื่อรายงานผลการดำเนินงานว่า ได้สั่งการให้ผู้บริหาร ธสน. ให้วางกลยุทธ์เพื่อเตรียมความพร้อมแผนการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ส่งออกให้ครอบคลุมธุรกิจทุกรูปแบบ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดเล็ก สตาร์ทอัป และธุรกิจขนาดกลาง ทั้งในด้านการให้เครดิต การหาช่องทางการค้าขาย การขยายตลาดใหม่ เพื่อให้ผู้ประกอบการส่งออกทำธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถแข่งขันได้มากขึ้น
โดยได้เร่งให้ ธสน.ไปจัดทำฐานข้อมูลรายประเทศ และรวบรวมเป็นสถิติ พร้อมจัดทำการประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนให้แก่ผู้ประกอบการสามารถนำไปพิจารณาช่องทางการทำตลาดของสินค้า เพื่อการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ได้คล่องตัวมากขึ้น เพื่อเป็นแนวทางให้เอ็กซิมแบงก์ พิจารณาการสนับสนุนด้านสินเชื่อ ธุรกรรมการเงินที่เกี่ยวข้อง ทั้งประกันการส่งออก และ Letter of Credit หรือ LC ภายใต้ภารกิจของธนาคารที่เป็นส่วนสำคัญของการขยายตลาดส่งออกของไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ หลังจากที่ต้องประสบปัญหาการชะลอตัวของภาคการส่งออกในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ เอ็กซิมแบงก์ ไม่ควรทำหน้าที่เพียงแค่ปล่อยสินเชื่อหรือค้ำประกันการส่งออกเพียงอย่างเดียว ควรจะต้องทำหน้าที่ในการเจาะตลาด หาตลาด หรือแหล่งข้อมูลใหม่ๆ เพื่อให้ผู้ส่งออกมีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ย้ำด้วยว่า ตนต้องการให้ ธสน. ไปสำรวจภารกิจตัวเอง โดยต้องทำหน้าที่มากกว่าการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ ไม่เช่นนั้นก็เหมือนกับสถาบันการเงินทั่วๆ ไป ไม่ใช่ธนาคารเพื่อการส่งออก นอกจากนี้ ธสน. ต้องสนับสนุนให้ความช่วยเหลือ ทั้งในด้านการค้ำประกัน การสอดส่องดูแลว่าประเทศที่เป็นคู่ค้าของเรามีความน่าเชื่อถือหรือไม่อย่างไร โดยประสานกับทูตพาณิชย์ดูว่าประเทศนั้นขาดแคลนหรือต้องการสินค้าประเภทไหน บางสินค้าผู้ประกอบการไทยก็สามารถผลิตได้ เพียงแต่ผู้ประกอบการไม่ทราบ ดังนั้น ธสน. อาจจะต้องประชาสัมพันธ์ว่าประเทศไหนขาดแคลนอะไร เพื่อผู้ประกอบการไทยจะได้หาช่องทางส่งออกไปซึ่งมองว่าสิ่งเหล่านี้คือภารกิจที่สำคัญของ ธสน.
ทั้งนี้ หลังจากรัฐบาลปลดล็อกการเดินทาง คาดว่าทุกคนจะมุ่งออกไปหาตลาด ซึ่งทำให้การแข่งขันสูง ซึ่งในช่วงนี้ ธสน. จะมีมาตรการสนับสนุนอย่างไร เช่น ในด้านเงินทุนอาจจะปล่อยกู้ไม่คิดดอกเบี้ย หรือในด้านการตลาด ให้ธนาคารฯ ประสานกับทูตพาณิชย์แต่ละประเทศเพื่อพิจารณาว่าสินค้าอะไร เซ็กเตอร์ไหนที่มีโอกาส ซึ่งอาจจะจัดสัมมนาให้แก่สมาคมผู้ประกอบการ โดยเชิญทูตพาณิชย์มาให้ข้อมูล แต่หากผู้ประกอบการต้องการเงินทุนก็เติมให้ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ ธสน. เป็นคำตอบในการที่จะรีสตาร์ทการส่งออกที่ได้ชะงักไปให้กลับมาได้ และทำให้ ธสน. เป็นองค์กรหนึ่งที่สำคัญในระบบเศรษฐกิจไทย