xs
xsm
sm
md
lg

AAV ไตรมาส 2 น่าห่วงกว่า / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แม้ราคาหุ้น บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV เจ้าของสายการบินไทยแอร์เอเชีย จะไม่ทรุดหนัก แต่ผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2563 ที่ประกาศออกมา ก็ทำให้สถานการณ์ราคาหุ้นสายการบินแห่งนี้น่าเป็นห่วง เพราะคงไม่ฟื้นคืนสู่ความคึกคักในระยะเวลาอันใกล้

ผลประกอบการ AAV ไตรมาสแรก พลิกจากกำไรกลายเป็นขาดทุน โดยมียอดขาดทุนสุทธิ 671.4 ล้านบาท ขณะที่ระยะเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 497.2 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้โดยสารลดลง

ราคาหุ้น AAV เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังประกาศงบการเงินไตรมาสแรก ปรับตัวลง 2 สตางค์ โดยปิดที่ 1.70 บาท และถือว่า ราคาหุ้นแทบไม่ได้ซึมซับรับข่าวร้ายผลประกอบการที่ทรุดมากนัก ทั้งที่ผลขาดทุนในไตรมาสแรก เป็นสิ่งบ่งชี้ว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 อาจเลวร้ายกว่าไตรมาสแรก

AAV เป็นหุ้นสายการบินที่เคยมีอนาคตที่สุดในหุ้นสายการบินด้วยกัน โดยเป็นสายการบินต้นทุนต่ำที่มีผลประกอบการดี สร้างผลกำไรได้หลายปีติดต่อ แต่ปีที่ผ่านมา เริ่มแสดงผลขาดทุน โดยขาดทุนสุทธิ 474 ล้านบาท ขณะที่ปี 2561 มีกำไรสุทธิ 69.97 ล้านบาท

ผลประกอบการที่ขาดทุน ทำให้ราคาหุ้นสายการบินแห่งนี้เป็นขาลงมายาวนาน โดยวิกฤต “โควิด-19” ซ้ำเติมให้ราคาหุ้นดิ่งลงเหว และลงไปต่ำสุดนับจากเข้าตลาดหุ้นที่ 1 บาท เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา ก่อนจะเริ่มกระเตื้องขึ้น จนขึ้นมาแตะจุดสูงสุดของรอบที่ 1.92 บาท/หุ้น เมื่อวันที่ 27 เมษายน

ไทยแอร์เอเชีย ประกาศระงับการบินระหว่างประเทศ ในช่วงวันที่ 22 มีนาคม-31 พฤษภาคม 2563 ซึ่งจะทำให้ 2 เดือนแรกในไตรมาสที่ 2 คือเดือนเมษายนและพฤษภาคม รายได้ลดฮวบ และเดือนมิถุนายน ไม่แน่ใจว่า สายการบินระหว่างประเทศจะเปิดบริการได้ตามปกติหรือไม่ และจะมีผู้โดยสารใช้บริการเพียงใด

ดังนั้น ผลประกอบการไตรมาสแรกที่ย่ำแย่แล้ว ในไตรมาสที่ 2 มีแนวโน้มที่จะแย่หนักกว่า และสิ่งที่น่าจับตาคือ บริษัทแอร์เอเชียในมาเลเชีย ซึ่งกำลังเผชิญวิกฤตหนัก จนอาจส่งผลกระทบเชิงจิตวิทยาต่อหุ้น AAV

หุ้นกลุ่มสายการบิน เจอพิษ “โควิด-19” เล่นงานจนงอม ราคาหุ้นปักหัวลงเป็นแถว และสถานการณ์สายการบินทั่วโลกกำลังระส่ำระสาย ทยอยกันล้มละลาย รวมทั้งสายการบินในประเทศไทย ซึ่งยังไม่รู้ว่า ใครจะทนอยู่ได้ขนาดไหน

สำหรับ AAV มีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 22,868 ราย ซึ่งแทบทั้งหมดแบกหุ้นต้นทุนสูงอยู่ และน่าจะเข้ามาลงทุนในช่วงที่บริษัทมีผลประกอบการดี จนเป็นหุ้นเก็งกำไรยอดนิยมอยู่พักหนึ่ง

ไม่เฉพาะนักลงทุนรายย่อยเท่านั้นที่ “ติดกับ” หุ้นตัวนี้ แม้แต่กองทุนรวมหลายแห่ง ยังเข้ามาเก็บ AAV ด้วยเหมือนกัน รวมๆ แล้วประมาณ 10% ของทุนจดทะเบียน

นักลงทุนที่ถือ AAV ติดมือ และถือไว้ในต้นทุนที่สูง อาจทำใจตัดขายขาดทุนไม่ได้ และเลือกที่จะทนถือต่อไป แม้ประเมินแล้วว่า ในระยะสั้นหุ้นสายการบินคงไม่ฟื้น

แต่สิ่งต้องที่น่าห่วงคือ ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ซึ่งอาจขาดทุนหนักกว่าไตรมาสแรก และจะฉุดราคาหุ้นร่วงลงไปอีก

นักลงทุนที่ติดหุ้น AAV จะทนรับแรงกระแทกจากผลประกอบการที่มีแนวโน้มทรุดยาวไหวหรือไม่






กำลังโหลดความคิดเห็น