xs
xsm
sm
md
lg

ชุชนGUL

เผยแพร่:   โดย: สุนันท์ ศรีจันทรา

ชุมชนคนหุ้น
GULFหลุดวิกฤต “โควิด”
- วิกฤตเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้หุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จำนวนร่วม 800 บริษัททรุดลงทั่วหน้า และเพิ่งจะเริ่มฟื้นตัวกลับขึ้นมา แต่หุ้นที่ฟื้นตัวรวดเร็วโดเด่นที่สุดตัวหนึ่งคือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน)หรือGULF
- ราคาหุ้นGULFปิดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาในระดับ39.50บาท และหากปรับตัวขึ้นอีกเพียง 5% จะกลายเป็นราคาสูงสุดใหม่ ก่อนเกิดวิกฤต “โควิด”เสียอีก
- ก่อนการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส GULFสร้างราคาสูงสุดที่203 บาท ซึ่งเป็นราคาก่อนแตกพาร์จาก 5 บาทเหลือพาร์1 บาทในปัจจุบัน ขณะที่หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ยอดนิยมด้วยกันอีก 2 บริษัท ประกอบด้วยบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด(มหาชน)หรือGPSC ราคาสูงสุดอยู่ที่98.75บาท
-และหุ้นบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด(มหาชน)หรือBGRIM ราคาสูงสุดอยู่ที่69.25บาท
- หุ้นGPSC ปิดเมื่อวันจันทร์ที่70.50 บาท ลดลงจากจุดสูงสุด28.25 บาท ขณะที่BGRIMปิดที่44.25บาท ลดลงจากจุดสูงสุดก่อนหน้า25บาท
- GULFซื้อขายด้วยราคาพาร์ใหม่(พาร์1 บาท) เมื่อวันที่16 เมษายนที่ผ่านมา โดยราคาปรับตัวขึ้นก่อนหน้าที่จะประกาศแตกพาร์แล้ว ซึ่งคำนวณราคาหุ้นจากพาร์เดิม5บาท) GULFจะมีราคา197.50 บาท ต่ำกว่าราคาสูงสุดก่อนหน้าเพียง5.50บาทเท่านั้น
- ในช่วงที่นักลงทุนตื่นตระหนกผลกระทบ “โควิด” แห่เทขายหุ้นทิ้ง ทำให้ GULF ถูกถล่มไปด้วย ไม่เหลือคราบความเป็นหุ้นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่อนาคตสดใสแต่อย่างใด โดยราคาดิ่งลงไปต่ำสุดที่113 บาท ระหว่างชั่วโมงซื้อขายวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา
- ใครที่ใจกล้าช้อนซื้อไว้ ฟันกำไรงามไปแล้ว เพราะราคาระดับ113 บาท เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ และไม่มีใครได้เห็นราคานี้อีกเลย
- GULFฟื้นเร็ว และมาไกลมาก เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน เพราะค่าพี/อี เรโชพุงขึ้นไปยืนระดับ 82 เท่าแล้ว ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทนประมาณ0.68%เท่านั้น จึงเป็นหุ้นโรงไฟฟ้าที่มีราคาแพง
- แต่นักลงทุนที่แห่เข้าไปลุยซื้อ ไม่ได้มองกันที่ปัจจัยพื้นฐานปัจจุบัน แต่คาดหวังกันด้วยอนาคต เพราะมั่นใจแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการ จึงกล้าสู้ราคา
- ผลประกอบการGULF เติบโตต่อเนื่อง โดยปี2561 มีกำไรสุทธิ3,028.13 ล้านบาท ปี2562 มีกำไรสุทธิ4,886.56 ล้านบาท และคาดว่า ไตรมาสแรกปีนี้ ผลประกอบการยังเติบโตได้ดี เพราะไม่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิดฯ นอกจากนั้นยังมีการขยายลงทุนทุนต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ
- รวมทั้งเป็นบริษัทโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีเครือข่ายทางธุรกิจ มีเงินลงทุนมหาศาล และเป็นอีกจุดขายที่เรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน
-ดัชนีหุ้น แม้จะฟื้นตัวขึ้นมาไม่น้อย จากระดับต่ำสุดที่969 นุด ขึ้นมายืนที่ระดับ1270 จุด โดยดีดตัวกลับขึ้นมาประมาณ300 จุด แต่ถ้าเทียบกับจุดสูงสุดก่อนวิกฤตโควิดที่ระดับ1600 จุด ถือว่าดัชนีหุ้นยังอยู่ห่างไกลจากจุดสูงสุดในปีนี้
- และหุ้นส่วนใหญ่ในกระดานก็ไม่ต่างกับดัชนีหุ้น โดยฟื้นตัวในระดับที่ใกล้เคียงกัน
- มีแต่GULFที่เป็นพระเอก ทะยานขึ้นอย่างโดดเด่น และมีสิทธิจะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ตัวแรกที่หลุดพ้นจากวิกฤต “โควิด”
- เพราะถ้าราคาขยับขึ้นอีกเพียง 3% จะสร้างสูงสุดใหม่ในปีนี้ ขณะที่หุ้นทั้งกระดานยัง “ซม”พิษ“โควิด”กันอยู่เลย