หุ้นคาดหวังผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์บางส่วน ขณะที่ พ.ร.ก.กู้เงินมาเร็วกว่าคาด

ปิดเช้าพุ่ง 19.86 จุด ดีกว่าตลาดภูมิภาค คาดหวังผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์บางส่วน ขณะที่ พ.ร.ก.กู้เงินมาเร็วกว่าคาด แนวโน้มภาคบ่ายคาดตลาดคงจะปรับตัวขึ้นไปได้ต่อ แม้ Valuation จะตึงตัวแต่ก็ยังมีความหวังจากการประชุม ครม. และการที่นายกรัฐมนตรีเชิญมหาเศรษฐีมาพูดคุยเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเรื่องสถานการณ์โควิด-19 ก็คิดว่าน่าจะมีข่าวดีบ้าง

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวกเล็กน้อย รับ Senitment บวกหลังจากที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี ลง 0.2% สู่ระดับ 3.85% จากระดับ 4.05% และได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ลง 0.1% สู่ระดับ 4.65% จากระดับ 4.75% ซึ่งปรับลดมากกว่าที่ตลาดคาดไว้

ขณะที่ตลาดบ้านเราได้รับปัจจัยบวกเฉพาะตัวจากความคาดหวังการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์บางส่วน และได้แรงหนุนจากราชกิจจานุเบกษา ที่ประกาศ พ.ร.ก. 3 ฉบับให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน, รองรับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกซอฟต์โลน-ตั้งกองทุนรักษาเสถียรภาพภาคการเงิน (BSF) ทำให้คาดว่าในส่วนของ พ.ร.ก.กู้เงินก็จะมีเม็ดเงินเข้าระบบได้ในเดือน พ.ค.เลย

ด้าน พ.ร.ก.ที่รองรับให้ ธปท.ออกซอฟต์โลนให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ภาคธุรกิจวงเงิน 5 แสนล้านบาท ก็จะมาหนุนกลุ่มแบงก์ให้สามารถมากู้เงินจาก ธปท.ไปปล่อยสินเชื่อได้ และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ก็คงจะไม่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการเลื่อนการใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ออกไป รวมถึงหนี้เสียที่ไม่เกิน 100 ล้านบาทก็ไม่ต้องลงบัญชีก็ได้ ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มแบงก์เช้านี้ก็ปรับขึ้นได้ดีด้วย

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ (21 เม.ย.) ซึ่งให้จับตาดูว่าจะมีการอนุมัติอะไรออกมาบ้างหลังจากที่ภาคเอกชนได้ยื่นข้อเสนอไปหลายอย่าง

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,259.10 จุด เพิ่มขึ้น 19.86 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.60% มูลค่าซื้อขายราว 36,478 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐพลกล่าวว่า ตลาดฯ คงจะปรับตัวขึ้นไปได้ต่อ แม้ Valuation จะตึงตัวแต่ก็ยังมีความหวังจากการประชุม ครม. และการที่นายกรัฐมนตรีเชิญมหาเศรษฐีมาพูดคุยเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเรื่องสถานการณ์โควิด-19 ก็คิดว่าน่าจะมีข่าวดีบ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,250-1,255 จุด ส่วนแนวต้าน 1,270 จุด