xs
xsm
sm
md
lg

กรุงไทยคาดจีดีพีติดลบ 4.6% ศก.โลกยังไม่แน่นอน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์วิจัยกรุงไทยชี้ IMF คาดเศรษฐกิจโลกปีนี้หดตัว 3% ถือว่าต่ำสุดนับแต่ปี 1930 จับตาเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วหลังสถานการณ์ในสหรัฐฯ-ยุโรปน่าเป็นห่วง ขณะที่เศรษฐกิจไทยหดตัวหนักสุดในอาเซียนที่ระดับ 6.7% แต่ KrungthaiCOMPASS เชื่อว่าจากมาตรการภาครัฐที่ออกมาอุ้มจะทำให้เศรษฐกิจหดตัวน้อยกว่าที่ระดับ 4.6%

ศูนย์วิจัย KrungthaiCOMPASS
ระบุ การคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะหดตัว 3% (เมื่อเทียบกับประมาณการเดิมที่ขยายตัว 3.3%) นั้น นับว่ามีความรุนแรงกว่าช่วงวิกฤตการเงินโลกในปี 2008-2009 และดูเหมือนจะตกต่ำสุดนับตั้งแต่ The Great Depression ในปี 1930 กล่าวคือ วิกฤตโรคระบาด COVID-19 ครั้งนี้อาจเรียกได้ว่าเป็น “The Great Lockdown” ที่สะท้อนมาตรการจำกัดพื้นที่ในแต่ละภูมิภาคทั่วโลกเพื่อชะลอการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา ก่อนที่เศรษฐกิจโลกจะกลับมาขยายตัวได้ในปี 2021 ที่ระดับ 5.8% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและฐานต่ำปีนี้
โดยกลุ่มเศรษฐกิจพัฒนาแล้วยังน่าเป็นห่วงหลังการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและรุนแรงอย่างยิ่งในสหรัฐฯ และยุโรป แม้จะใช้มาตรการ Lockdown ไปแล้วก็ตาม ซึ่งนำไปสู่การขาดความเชื่อมั่นในระยะต่อไป โดย IMF คาดว่าเศรษฐกิจกลุ่มนี้จะหดตัวถึง 6.1% ก่อนจะกลับมาขยายตัวได้ที่ 4.5% ในปี 2021


ส่วนกลุ่มประเทศเศรษฐกิจกำลังพัฒนาและประเทศเกิดใหม่ยังต้องเผชิญต่อวิกฤตด้านสาธารณสุข และดีมานด์จากทั้งในและต่างประเทศหยุดชะงัก โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัว 2.2% ในปี 2020 ยิ่งกว่านั้น หากสถานการณ์การแพร่ระบาดและมาตรการป้องกันยังลากยาวออกไป จะยิ่งส่งผลให้เศรษฐกิจกลุ่มนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการปิดตัวของบริษัท และอัตราการว่างงานที่เพิ่มมากขึ้น


ด้านเศรษฐกิจอาเซียนคาดว่าจะหดตัว 0.6% ในปี 2020 และขยายตัว 7.8% ในปี 2021 โดยเฉพาะเศรษฐกิจไทยปีนี้คาดว่าจะหดตัวหนักสุดถึง 6.7% ก่อนที่เศรษฐกิจจะกลับมาเติบโตที่ 6.1% ในปี 2021 รองลงมาคือ มาเลเซียที่ -1.7% ในปีนี้ และ 9% ในปี 2021 สวนทางกับเศรษฐกิจเวียดนามที่ยังคงขยายตัวได้ที่ 2.7% ในปี 2020 และ 7% ปี 2021


ขณะที่ศูนย์วิจัย KrungthaiCOMPASS คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้หดตัวที่ 4.6% ดีกว่าที่ IMF ประมาณการไว้ โดยมองว่าแม้เศรษฐกิจไทยพึ่งพาดีมานด์จากต่างประเทศสูง ส่งผลให้เมื่อเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย ย่อมจะกระทบเศรษฐกิจไทยตามไปด้วย แต่อย่างไรก็ดี คาดว่ามาตรการทางการคลังและมาตรการทางการเงินที่มีเม็ดเงินกว่า 1.9 ล้านล้านบาท จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยปี 2020 หดตัวในระดับที่คาดการณ์ไว้ได้ ประกอบกับบทสัมภาษณ์ของ รมว.คลัง ที่มีแนวทางที่จะขยายกรอบเพดานการก่อหนี้สาธารณะให้มากกว่า 60% ของจีดีพี ทำให้น่าจะเห็นมาตรการคลังอื่นๆ เข้ามาช่วยประคองเศรษฐกิจเพิ่มเติมหากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงลากยาวต่อไป


อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของโรคที่ไม่อาจประเมินได้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่? ทำให้ความไม่แน่นอนในตลาดการเงินยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น กดดันเงินบาทอ่อนค่าต่อไป ภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ทำให้กระแสเงินทุนมีความผันผวนรุนแรงและไหลออกจากสินทรัพย์ในตลาดเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่เงินทุนไหลเข้าในตลาดเกิดใหม่อาจเข้าสู่ภาวะ “SuddenStop” หรือการเคลื่อนย้ายเงินทุนหยุดกะทันหัน ดังเช่นที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตการเงินปี 2008-2009 ซึ่งจากปรากฏการณ์นี้อาจกดดันให้เงินบาทต่อดอลลาร์ฯ และเงินสกุลประเทศเกิดใหม่มีโอกาสอ่อนค่ามากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น