ตามที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน 360o ประจำวันที่ 10 เมษายน 2563 หัวข้อข่าว SPECIAL SCOOP “บิ๊กตู่” สั่ง “จุติ” สอบ “กคช.” มีการทุจริต เอื้อพวกพ้อง โดยสั่งตรวจสอบ “บ้านทั่วไทย” ของการเคหะแห่งชาติ ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น โดยนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งการให้ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กำกับดูแลการเคหะแห่งชาติ อย่าให้เกิดการทุจริตแสวงหาผลประโยชน์จากองค์กร และอย่าให้มีการเก็งกำไร จนทำให้ประชาชนคนจนคนชั้นกลางที่อยากมีบ้านได้รับความเดือดร้อนนั้น
การเคหะแห่งชาติ ขอเรียนชี้แจงให้ทราบว่า โครงการบ้านถูกทั่วไทย ค่าเช่า 999 บาท/เดือน ได้ดำเนินการตามเงื่อนไขทุกประการ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.เปิดให้ประชาชนทั่วไปลงทะเบียนจองผ่าน https:///999.nha.co.th โดยผู้จองต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ เป็นผู้มีสัญชาติไทยและบรรลุนิติภาวะ ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย มีรายได้ครัวเรือนไม่เกิน 40,000 บาท/เดือน ยกเว้นโครงการบ้านพระราม 4 ที่ไม่จำกัดรายได้ เนื่องจากเป็นโครงการเชิงพาณิชย์ ผู้ลงทะเบียนต้องไม่เป็นคู่สัญญาเช่ากับการเคหะแห่งชาติ และไม่มีหนี้ค้างชำระ และลงทะเบียนจองได้ 1 คน ต่อ 1 สิทธิเท่านั้น
2.การเคหะแห่งชาติได้เชิญลูกค้าทำสัญญาเช่าตามลำดับการลงทะเบียนจองสิทธิ ซึ่งลูกค้าจะเป็นผู้เลือกโครงการที่ต้องการเองในวันที่ลงทะเบียน และเลือกทำเลด้วยตนเองในวันทำสัญญา
3.การเคหะแห่งชาติให้สิทธิข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ เพียงร้อยละ 7 ของผู้ได้สิทธิเท่านั้น และกลุ่มนี้ไม่มีสิทธิพิเศษในการเลือกทำเลที่ตั้งแต่อย่างใด ทุกอย่างเป็นไปตามลำดับการลงทะเบียนจองสิทธิ
4.กรณีมีการนำพื้นที่บางส่วน เช่น ตลาด ไปให้เช่าช่วงนั้น หากพบว่าพื้นที่ใดมีการนำไปเช่าช่วงจริง การเคหะแห่งชาติจะบอกเลิกสัญญา และดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ทั้งนี้ การให้สิทธิเช่าบริเวณพื้นที่ให้เช่าของการเคหะแห่งชาติมีหลักเกณฑ์ ดังนี้
4.1) ให้สิทธิตรงแก่ผู้ประกอบการรายย่อย โดยการเคหะแห่งชาติจะพิจารณาให้สิทธิตรงแก่ผู้อยู่อาศัยในชุมชนเป็นอันดับแรก หากมีพื้นที่เหลือจะเปิดโอกาสให้ผู้อยู่อาศัยในชุมชนข้างเคียง
4.2) ให้สิทธิตรงแก่องค์กรชุมชน เช่น คณะกรรมการชุมชนฯ นิติบุคคลอาคารชุด หน่วยงานบริหารส่วนท้องถิ่น บริหารตลาด และร้านค้าก่อน
4.3) ให้สิทธิโดยวิธีการประกวดราคา ในการประกวดราคาได้กำหนดให้สิทธิผู้ประกอบการค้าในชุมชนเป็นอันดับแรก
5.กรณีห้องเช่าที่มีการนำไปเช่าช่วง และหารายได้จากส่วนต่างนั้น ซึ่งการทำสัญญาเช่าห้องชุดของการเคหะแห่งชาติ แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1) การเคหะแห่งชาติทำสัญญาเช่ากับประชาชนโดยตรงเป็นรายห้อง และทำสัญญาเช่าเป็นรายปี ผู้เช่าต้องมาต่อสัญญาเช่าทุกปี หากพบว่ามีการนำห้องไปให้เช่าช่วง การเคหะแห่งชาติจะดำเนินการบอกเลิกสัญญาและขอห้องคืน
2) การทำสัญญาเช่าเหมาบริหารอาคารกับผู้ประกอบการเอกชน โดยการเปิดประมูลเสนอราคา และมอบให้เอกชนเป็นผู้บริหารสัญญา ซึ่งผู้เช่าเหมาจะทำสัญญาเช่าห้องชุดกับผู้เช่ารายย่อย และจัดเก็บค่าเช่าไม่เกินอัตราที่การเคหะแห่งชาติกำหนด
การเคหะแห่งชาติ ขอขอบคุณหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน 360o ที่เป็นสื่อกลางความเข้าใจอันดีระหว่างภาครัฐกับประชาชน และช่วยเผยแพร่ข้อเท็จจริงนี้ให้ประชาชนได้ทราบต่อไป
ขอแสดงความนับถือ
(นางสาวอภิสมา ฉัตรกิตติ์พิภัทร์ )
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม