xs
xsm
sm
md
lg

ESTAR โอนควินทารา ทรีเฮาส์ สุขุมวิท 42 รับรายได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 ควินทารา ทรีเฮาส์ สุขุมวิท 42
อีสเทอร์น สตาร์ฯ เตรียมทยอยรับรู้รายได้โครงการคอนโดฯ "ควินทารา ทรีเฮาส์ สุขุมวิท 42" มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาทภายในปีนี้ พร้อมเดินหน้าก่อสร้าง 2 โครงการคอนโดฯโลว์ไรส์ และโครงการแนวราบ รวมมูลค่า 2,100 ล้านบาท เผยปีนี้ ผู้ประกอบการต้องทำงานหนัก รับมือวิกฤตโควิด-19

ดร.ต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR เปิดเผยว่า โครงการ “ควินทารา ทรีเฮาส์ สุขุมวิท 42” คอนโดมิเนียมหรู Low Rise โครงการแรกของบริษัทฯ บนทำเลศักยภาพย่านทองหล่อ-เอกมัย มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จและอยู่ระหว่างทยอยโอน ซึ่งจะทำให้บริษัทมีการรับรู้รายได้เข้ามาภายในปีนี้ และจะเปิดให้ชมอาคารจริงได้ในประมาณเดือนเม.ย.2563

โดยโครงการทรีเฮาส์ สุขุมวิท 42 เป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 304 ยูนิต ประกอบด้วยห้อง 2 ขนาด ได้แก่ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 29-40 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน ขนาด 46-55ตร.ม. ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ ในซอยสุขุมวิท 42 เดินทางสะดวก เข้าออกได้ทั้งฝั่งถนนสุขุมวิทและพระราม 4 อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเอกมัย และศูนย์การค้าเกตเวย์เพียง 550 เมตร ราคาขายเริ่มต้นที่ 4.29 ล้านบาท ออกแบบโดย บริษัท สถาปนิก A49 จำกัด บริษัทออกแบบชั้นนำของประเทศ และบริหารงานขายโดย บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เน้นจับกลุ่มลูกค้า Gen X และ Y ที่มีรายได้ต่อเดือน 50,000 บาทขึ้นไป

 ควินทารา ทรีเฮาส์ สุขุมวิท 42
นอกจากนั้นแล้ว บริษัทอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการควินทารา อาเท่ สุขุมวิท 52 คอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 154 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท ประกอบด้วย ห้องชุดแบบ Fully Furnished ขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ตั้งแต่ 28.00-51 ตร.ม. และขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ 56.00 ตร.ม. มูลค่าโครงการประมาณ 600 ล้านบาท

และ โครงการเอสทารา เฮเว่น พัฒนาการ 20 เป็นบ้านแฝด 3 ชั้น และทาวน์โฮม 3.5 ชั้น พื้นที่โครงการ 21 ไร่ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 200-220 ตร.ม.ต่อหลัง จำนวน 152 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 7.89 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 1,500 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการอยู่ระหว่างการขาย มียอดขาย 80% และ 50% ของในส่วนที่เปิดขายตามลำดับ

ดร.ต่อศักดิ์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ผู้ประกอบการต้องทำงานหนักขึ้น เพราะต้องแข่งขันกับจำนวนหน่วยที่คงค้างอยู่ในตลาด และบรรยากาศความกังวลของลูกค้าโดยทั่วไป แต่สำหรับผู้บริโภคและนักลงทุนแล้ว ถือเป็นโอกาสทองที่จะสามารถซื้อที่อยู่อาศัยในหลากหลายทำเล ที่มีศักยภาพได้ในราคาไม่แพง อย่างไรก็ดี เชื่อว่าหากสถานการณ์ไวรัส โควิด-19 คลี่คลาย บรรยากาศความตระหนกลดลง ตลาดอสังหาฯ ในประเทศไทยน่าจะกลับมาฟื้นตัวเติบโตตามเรียลดีมานด์อีกครั้ง ผู้คนจะกลับมากล้าซื้อและจับจ่ายสินค้า และสำหรับตลาดชาวต่างชาติมองว่า อสังหาฯ ไทยยังมีความน่าลงทุนอยู่ เพราะเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แล้ว ยังมีราคาไม่แพงเหมาะสำหรับซื้อลงทุนปล่อยเช่าหรือเป็นบ้านหลังที่ 2 อีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น