ไนท์แฟรงค์ ชี้ไวรัสโควิด-19 กระทบตลาดคอนโดฯ ภูเก็ตปี 2563 อย่างหนัก เหตุกลุ่มลูกค้าเกือบ 90% เป็นชาวต่างชาติ คาดซึมยาวไปอีก 6 เดือน
นายณัฏฐา คหาปนะ กรรมการบริหาร บริษัท ไนท์แฟรงค์ ภูเก็ต จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเป็นธุรกิจที่เติบโตเป็นคู่ขนานไปกับการเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวในภูเก็ต เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคือกลุ่มลูกค้าหลักที่เข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต โครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายจะขายในลักษณะการันตีผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า
จากผลวิจัยไนท์แฟรงค์ประเทศไทย ณ ปลายปี 2562 คอนโดมิเนียมในภูเก็ตมีจำนวนทั้งสิ้น 25,932 หน่วย โดยในปี 2562 มีจำนวนคอนโดมิเนียมในภูเก็ตที่เปิดขายใหม่สูงถึง 5,545 หน่วย จากโครงการคอนโดมิเนียมทั้งสิ้น 21 โครงการ จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา จำนวนหน่วยคอนโดมิเนียมในภูเก็ตที่เปิดขายใหม่มีเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จากเดิมที่ในช่วงก่อนปี 2559 คอนโดมิเนียมในภูเก็ตเปิดขายใหม่เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ประมาณ 1,800-2,000 หน่วยต่อปี มาในระยะ 3 ปีหลัง จำนวนหน่วยเปิดขายใหม่ของคอนโดมิเนียมในภูเก็ตเพิ่มขึ้นมาเป็น 4,000 หน่วย และ ปี 2562 คอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในภูเก็ตมีจำนวนสูงที่สุด คือ 5,545 หน่วย
คอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในปี 2562 โดยส่วนใหญ่อยู่บริเวณหาดสุรินทร์ถึงร้อยละ 20 รองลงมา ได้แก่ บริเวณหาดลายัน และหาดราไวย์ คิดเป็นสัดส่วนในอัตราร้อยละ 17 และ 14 ตามลำดับ บริเวณหาดสุรินทร์มีจำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่สูงสุดอันเนื่องมาจากมีโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่เปิดขาย ในส่วนของบริเวณกมลา ได้มีโครงการชื่อ โอเที่ยม (Otium) ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่พักสำหรับผู้เกษียณอายุ
ในปี 2562 จำนวนหน่วยขายสะสมของคอนโดมิเนียมในภูเก็ตมีทั้งสิ้น 19,199 หน่วย จากจำนวนคอนโดมิเนียมที่เปิดขายรวม 25,932 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายร้อยละ 74 ซึ่งมีจำนวนหน่วยเหลือขาย 6,733 หน่วย จำนวนหน่วยคอนโดมิเนียมที่ขายได้ใหม่ในปี 2562 มีจำนวนหน่วยขายสูงถึง 4,177 หน่วย ซึ่งจำนวนหน่วยขายใกล้เคียงกับปี 2561 ซึ่งมีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่อยู่ที่ 4,022 หน่วย ขณะที่ปี 2560 มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ที่ 3,114 หน่วย เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนหน่วยขายระหว่างปี 2555-2559 ที่มีเพียง 1,000-1,800 หน่วยต่อปี
กลุ่มผู้ซื้อคอนโดมิเนียมในภูเก็ตในอดีตเป็นชาวต่างชาติ (เกือบ 100%) โดยเป็นนักท่องเที่ยวและนักลงทุนที่มีความชื่นชอบในการเข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ต ในขณะที่ปัจจุบันกลุ่มผู้ซื้อส่วนใหญ่ยังคงเป็นชาวต่างชาติ (ร้อยละ 90%) แต่ยังมีกลุ่มคนไทยเพิ่มขึ้นด้วย (ร้อยละ 10%) นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มชาวต่างชาติที่ทำธุรกิจอยู่ในกรุงเทพฯ ด้วย กลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมในภูเก็ตมีความหลากหลายมาก โดยกลุ่มใหญ่ๆ ที่ซื้อคอนโดมิเนียมในภูเก็ต ประกอบด้วย ชาวจีน ชาวฮ่องกง สิงคโปร์ และชาวรัสเซีย
ปัจจัยหลักที่ทำให้คอนโดมิเนียมในภูเก็ตค่อนข้างขายดีเนื่องจากโครงการที่เปิดขายใหม่ส่วนใหญ่จะเสนอผลตอบแทนการลงทุนแก่ผู้ซื้อ เป็นระยะเวลา 3-5 ปี (การันตีผลตอบแทน) และยังสามารถเข้าพักได้ ในระยะเวลา 30-45 วันต่อปี จะเห็นได้ว่าโครงการที่เปิดขายใหม่ในปี 2562 ถึง 86% หรือ 18 โครงการ จาก 21 โครงการ ที่การันตีผลตอบแทนให้แก่ผู้ซื้อ
กลุ่มผู้ซื้อคอนโดมิเนียมในภูเก็ตในอดีตเป็นชาวต่างชาติ (เกือบ 100%) โดยเป็นนักท่องเที่ยวและนักลงทุน ที่มีความชื่นชอบในการเข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ต ในขณะที่ปัจจุบันกลุ่มผู้ซื้อส่วนใหญ่ยังคงเป็นชาวต่างชาติ (ร้อยละ 90%) แต่ยังมีกลุ่มคนไทยเพิ่มขึ้นด้วย (ร้อยละ 10%) นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มชาวต่างชาติที่ทำธุรกิจอยู่ในกรุงเทพฯ ด้วย กลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมในภูเก็ตมีความหลากหลายมาก โดยกลุ่มใหญ่ๆ ที่ซื้อคอนโดมิเนียมในภูเก็ต ประกอบด้วย ชาวจีน ชาวฮ่องกง สิงคโปร์ และชาวรัสเซีย
ปัจจัยหลักที่ทำให้คอนโดมิเนียมในภูเก็ตค่อนข้างขายดีเนื่องจากโครงการที่เปิดขายใหม่ส่วนใหญ่จะเสนอผลตอบแทนการลงทุนแก่ผู้ซื้อ เป็นระยะเวลา 3-5 ปี (การันตีผลตอบแทน) และยังสามารถเข้าพักได้ ในระยะเวลา 30-45 วันต่อปี จะเห็นได้ว่าโครงการที่เปิดขายใหม่ในปี 2562 ถึง 86% หรือ 18 โครงการ จาก 21 โครงการ ที่การันตีผลตอบแทนให้แก่ผู้ซื้อ
ราคาขายคอนโดมิเนียมในภูเก็ตมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคอนโดมิเนียมที่เห็นวิวทะเลมีระดับราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 193,590 บาทต่อตารางเมตร ปรับตัวขึ้นจากปี 2554 ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 120,540 บาทต่อตารางเมตร ค่าเฉลี่ยการปรับตัวขึ้นของคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้จากปี 2554-2562 มีค่าเฉลี่ยสะสมในการปรับตัวในระยะเวลา 8 ปี (Compound Annual Growth Rate : CAGR) อยู่ในอัตราร้อยละ 7.6
คอนโดมิเนียมที่เห็นวิวทะเลบางส่วนมีระดับราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 107,000 บาท ต่อตารางเมตร ปรับตัวขึ้นจากปี 2554 ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 84,500 บาทต่อตารางเมตร ค่าเฉลี่ยการปรับตัวขึ้นของคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้จากปี 2554- 2562 มีค่าเฉลี่ยสะสมในการปรับตัวในระยะเวลา 8 ปี (Compound Annual Growth Rate : CAGR) อยู่ในอัตราร้อยละ 3.3
คอนโดมิเนียมที่ไม่เห็นวิวทะเลมีระดับราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 79,300 บาทต่อตารางเมตร ปรับตัวขึ้นจากปี 2554 ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 62,100 บาทต่อตารางเมตร ค่าเฉลี่ยการปรับตัวขึ้นของคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้จากปี 2554-2562 มีค่าเฉลี่ยสะสมในการปรับตัวในระยะเวลา 8 ปี (Compound Annual Growth Rate : CAGR) อยู่ในอัตราร้อยละ 3.5
แนวโน้มคอนโดมิเนียมในภูเก็ตปี 2563 คาดว่าน่าจะได้รับผลกระทบอย่างใหญ่หลวงจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา สายพันธ์ใหม่ หรือโควิด-19 เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อคอนโดมิเนียมเป็นชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 90 และชาวต่างชาติที่ซื้อคอนโดมิเนียมที่เป็นกลุ่มหลักคือ ชาวจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักจาก ไวรัสโคโรนา และในช่วงที่เริ่มมีการแพร่ระบาด พบว่า นักท่องเที่ยวชาวจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ได้ลดจำนวนลงเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวชาวยุโรปยังลดการเดินทางเข้ามาในประเทศในแถบเอเชีย รวมถึงประเทศไทยอีกด้วย และคาดว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 น่าจะลากยาวไปอีก 6 เดือน