สมาคมบริหารทรัพย์สินฯ แนะข้อปฏิบัติของผู้อาศัย เจ้าของร่วม นิติบุคคลในคอนโดฯ อพาร์ตเมนต์ หอพัก หวังรับมือการแพร่ระบาดป้องกันไวรัสโควิด-19
นายสามภพ บุนนาค นายกสมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ในขณะนี้ สมาคมฯ ตระหนึกถึงความสำคัญของแนวทางการบริหารดูแลอาคารที่พักอาศัย คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ หรือหอพัก รวมถึงผู้อยู่อาศัยร่วมที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงนี้ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาด และลดความเสี่ยงการติดเชื้อ การมีข้อปฏิบัติที่ชัดเจนของผู้ดูแลจัดการสถานที่ และการได้รับความร่วมมือจากผู้พักอาศัยอย่างเคร่งครัดจึงเป็นหัวใจสำคัญในการรับมือต่่อสถานการณ์โควิด-19
ดังนั้น สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทยจึงสรุปแนวทางบริหารและข้อปฏิบัติสำหรับอาคารที่พักอาศัย หอพัก อพาร์ตเมนต์เพื่อให้ทุกคนในชุมชนมีแนวทางร่วมกันในการป้องกันโควิด-19 โดยแนวทางปฏิบัติในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้แบ่งตามความรับผิดชอบของผู้เกี่ยวข้องดังนี้
1.ผู้จัดการนิติบุคคล/ผู้จัดการอาคาร และเจ้าหน้าที่ในอาคาร มีหน้าที่ดูแลในด้านต่างๆ ดังนี้ การประชาสัมพันธ์ในอาคารเพื่อสื่อสารกับกรรมการและเจ้าของร่วม การจัดเตรียมและสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันด้านการคัดกรองผู้เข้าออกอาคาร การเตรียมความพร้อมพื้นที่ส่วนกลาง การกำจัดสิ่งปฏิกูล การรับส่งพัสดุของนิติบุคคล การกำหนดพื้นที่รับส่งสิ่งของ/อาหารเดลิเวอรี การกำหนดพื้นที่ทางเดินในโครงการ และการประสานงานกับหน่วยงานภายนอกเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างทันที
2.กรรมการ มีบทบาทและหน้าที่ดูแลด้านการสื่อสารกับเจ้าของร่วม ด้านการสนับสนุนการออกระเบียบการอยู่อาศัย และ ด้านการจัดการการเงินหากต้องอนุมัติงบประมาณค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อสถานการณ์เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องในการปฏิบัติ
3.เจ้าของร่วม สิ่งสำคัญคือทำความเข้าใจและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเองและส่วนรวม โดยให้ข้อมูลอันเป็นข้อเท็จจริงต่อผู้จัดการนิติบุคคล ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามแนวทางอย่างเคร่งครัด สวมใส่หน้ากากอนามัยขณะอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งของต่างๆ ในส่วนกลาง ให้ผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยให้กักตัว 14 วันเพื่อสังเกตอาการ ให้ติดต่อสื่อสารกับผู้จัดการหรือเจ้าหน้าที่ของนิติบุคคลผ่านช่องทางที่กำหนดไว้
สำหรับกลุ่มเสี่ยง หรือผู้ป่วยที่ต้องพักอาศัยในโครงการ รวมถึงผู้ป่วยที่ออกจากโครงการไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล และประสานงานกับนิติบุคคลเรื่องการรับส่งสิ่งของหรืออาหารหากเป็นกลุ่มเสี่ยง หรือผู้ป่วย พร้อมร่วมสร้างบรรยากาศที่คอยดูแลกันในบ้านใหญ่เดียวกันทั้งก่อนหน้าและหลังจากที่อาจจะมีผู้ป่วยกลับมาพักอาศัยเหมือนเดิม
ทั้งนี้ สมาคมฯ ได้แบ่งตามสถานการณ์หลักๆ 5 สถานการณ์ ในช่วงโควิด-19 ได้แก่ 1.สถานการณ์ปัจจุบัน 2.สถานการณ์ที่มีกลุ่มเสี่ยงพักในอาคาร 3.สถานการณ์ที่พบผู้ป่วยในอาคาร 4.สถานการณ์ล็อกดาวน์ (predicted) และ 5.สถานการณ์ที่ผู้ป่วยต้องอาศัยในอาคาร (predicted) ซึ่งทั้ง 5 สถานการณ์ดังกล่าวสามารถนำแนวทางบริหารจัดการที่ทางสมาคมฯ ได้จัดทำขึ้นมาเป็นหลักการปฏิบัติเพื่อการสื่อสารที่ถูกต้องชัดเจน โดยผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแนวทางปฏิบัติในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในอาคารชุดได้ที่ http://www.pmathai.or.th
นายสามภพ บุนนาค นายกสมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ในขณะนี้ สมาคมฯ ตระหนึกถึงความสำคัญของแนวทางการบริหารดูแลอาคารที่พักอาศัย คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ หรือหอพัก รวมถึงผู้อยู่อาศัยร่วมที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงนี้ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาด และลดความเสี่ยงการติดเชื้อ การมีข้อปฏิบัติที่ชัดเจนของผู้ดูแลจัดการสถานที่ และการได้รับความร่วมมือจากผู้พักอาศัยอย่างเคร่งครัดจึงเป็นหัวใจสำคัญในการรับมือต่่อสถานการณ์โควิด-19
ดังนั้น สมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทยจึงสรุปแนวทางบริหารและข้อปฏิบัติสำหรับอาคารที่พักอาศัย หอพัก อพาร์ตเมนต์เพื่อให้ทุกคนในชุมชนมีแนวทางร่วมกันในการป้องกันโควิด-19 โดยแนวทางปฏิบัติในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้แบ่งตามความรับผิดชอบของผู้เกี่ยวข้องดังนี้
1.ผู้จัดการนิติบุคคล/ผู้จัดการอาคาร และเจ้าหน้าที่ในอาคาร มีหน้าที่ดูแลในด้านต่างๆ ดังนี้ การประชาสัมพันธ์ในอาคารเพื่อสื่อสารกับกรรมการและเจ้าของร่วม การจัดเตรียมและสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันด้านการคัดกรองผู้เข้าออกอาคาร การเตรียมความพร้อมพื้นที่ส่วนกลาง การกำจัดสิ่งปฏิกูล การรับส่งพัสดุของนิติบุคคล การกำหนดพื้นที่รับส่งสิ่งของ/อาหารเดลิเวอรี การกำหนดพื้นที่ทางเดินในโครงการ และการประสานงานกับหน่วยงานภายนอกเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างทันที
2.กรรมการ มีบทบาทและหน้าที่ดูแลด้านการสื่อสารกับเจ้าของร่วม ด้านการสนับสนุนการออกระเบียบการอยู่อาศัย และ ด้านการจัดการการเงินหากต้องอนุมัติงบประมาณค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อสถานการณ์เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องในการปฏิบัติ
3.เจ้าของร่วม สิ่งสำคัญคือทำความเข้าใจและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเองและส่วนรวม โดยให้ข้อมูลอันเป็นข้อเท็จจริงต่อผู้จัดการนิติบุคคล ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามแนวทางอย่างเคร่งครัด สวมใส่หน้ากากอนามัยขณะอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งของต่างๆ ในส่วนกลาง ให้ผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยให้กักตัว 14 วันเพื่อสังเกตอาการ ให้ติดต่อสื่อสารกับผู้จัดการหรือเจ้าหน้าที่ของนิติบุคคลผ่านช่องทางที่กำหนดไว้
สำหรับกลุ่มเสี่ยง หรือผู้ป่วยที่ต้องพักอาศัยในโครงการ รวมถึงผู้ป่วยที่ออกจากโครงการไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล และประสานงานกับนิติบุคคลเรื่องการรับส่งสิ่งของหรืออาหารหากเป็นกลุ่มเสี่ยง หรือผู้ป่วย พร้อมร่วมสร้างบรรยากาศที่คอยดูแลกันในบ้านใหญ่เดียวกันทั้งก่อนหน้าและหลังจากที่อาจจะมีผู้ป่วยกลับมาพักอาศัยเหมือนเดิม
ทั้งนี้ สมาคมฯ ได้แบ่งตามสถานการณ์หลักๆ 5 สถานการณ์ ในช่วงโควิด-19 ได้แก่ 1.สถานการณ์ปัจจุบัน 2.สถานการณ์ที่มีกลุ่มเสี่ยงพักในอาคาร 3.สถานการณ์ที่พบผู้ป่วยในอาคาร 4.สถานการณ์ล็อกดาวน์ (predicted) และ 5.สถานการณ์ที่ผู้ป่วยต้องอาศัยในอาคาร (predicted) ซึ่งทั้ง 5 สถานการณ์ดังกล่าวสามารถนำแนวทางบริหารจัดการที่ทางสมาคมฯ ได้จัดทำขึ้นมาเป็นหลักการปฏิบัติเพื่อการสื่อสารที่ถูกต้องชัดเจน โดยผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแนวทางปฏิบัติในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในอาคารชุดได้ที่ http://www.pmathai.or.th