"คลัง" ออกประกาศกระทรวงฯ เพิ่มเติมให้ "กรมสรรพากร" ขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีให้ครอบคลุมกลุ่มผู้ประกอบการเป็นการทั่วไป จากเดิมที่อนุญาตให้เฉพาะผู้ประกอบการที่ต้องปิดสถานประกอบตามคำสั่งของทางราชการ
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอนุมัติขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและการชำระภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรออกไปให้ครอบคลุมผู้ประกอบการเป็นการทั่วไป ซึ่งเป็นการเพิ่มเติมผู้ได้รับสิทธิดังกล่าวจากประกาศกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 25631 เพื่อช่วยผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ผู้บริหารหรือพนักงานที่เกี่ยวข้องการยื่นแบบภาษีต้องถูกกักตัวจากโควิด-19 จนไม่สามารถทำงานได้ หรือสำนักงานบัญชีที่ไม่สามารถเข้าไปในสถานประกอบการเพื่อเตรียมทำบัญชีและภาษี หรือสถานประกอบการที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) เดียวกันกับสถานประกอบการที่ถูกปิดกิจการ เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องต่อนโยบายของรัฐบาลที่รณรงค์ให้ประชาชนอยู่บ้าน และให้ผู้ประกอบการพิจารณาให้ลูกจ้างทำงานที่บ้าน เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังหวังเป็นอย่างยิ่งว่า มาตรการการขยายระยะเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีอากรให้แก่ผู้ประกอบการเป็นการทั่วไปในครั้งนี้ รวมทั้งกรณีที่กรมสรรพากรสนับสนุนให้ผู้ประกอบการยื่นและการชำระภาษีอากรผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะช่วยลดความเสี่ยงและช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ให้สามารถผ่านวิกฤตนี้ไปได้ และขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า การขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและการชำระภาษีอากรในครั้งนี้ มีรายละเอียดดังนี้ 1.ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (แบบ ภ.ง.ด.1 แบบ ภ.ง.ด.2 แบบ ภ.ง.ด.3 แบบ ภ.ง.ด.53 และแบบ ภ.ง.ด.54) ของเดือนมีนาคมและเดือนเมษายน 2563 ที่ต้องยื่นและชำระภาษีภายในเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคม 2563 ตามลำดับ ให้ขยายออกไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2563
2.ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายสินค้าและบริการภายในประเทศ (แบบ ภ.พ.30) ของเดือนมีนาคมและเดือนเมษายน 2563 ที่ต้องยื่นและชำระภาษีภายในเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคม 2563 ตามลำดับ ขยายออกไปถึงวันที่ 23 พฤษภาคม 2563 ส่วนในกรณีภาษีมูลค่าเพิ่มจากการจ่ายค่าบริการไปต่างประเทศ (แบบ ภ.พ.36) ของเดือนมีนาคมและเดือนเมษายน 2563 ที่ต้องยื่นและชำระภาษีภายในเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคม 2563 ตามลำดับ ให้ขยายออกไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2563
3.ภาษีธุรกิจเฉพาะ (แบบ ภ.ธ.40) ของเดือนมีนาคมและเดือนเมษายน 2563 ที่ต้องยื่นและชำระภาษีภายในเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคม 2563 ตามลำดับ ขยายออกไปถึงวันที่ 23 พฤษภาคม 2563 แต่ไม่รวมถึงกรณีการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางการค้าหรือหากำไรที่ชำระในขณะจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม และ 4.อากรแสตมป์ (แบบ อ.ส.4 แบบ อ.ส.4ก และแบบ อ.ส.4ข) ที่ต้องยื่นชำระอากรแสตมป์ภายในวันที่ 1 เมษายน-15 พฤษภาคม 2563 ให้ขยายออกไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2563
อธิบดีกรมสรรพากร ยังกล่าวด้วยว่า ในปัจจุบันกรมสรรพากรมีระบบที่สนับสนุนการยื่นแบบแสดงรายการและการชำระภาษีอากรผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกและลดภาระจัดเก็บเอกสาร รวมทั้งยังเป็นการช่วยลดการเดินทางไปชำระภาษีอากรในสำนักงานสรรพากรพื้นที่ หรือสรรพากรพื้นที่สาขาได้อีกด้วย