“คลัง” คาด กลุ่มแรงงานนอกระบบประกันสังคมเดือดร้อนจากการว่างงานมีไม่ถึง 3 ล้านราย แต่หากจะมีผู้ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือมีมากกว่านั้น คลังยืนยันพร้อมจ่ายจให้ทุกคน และอย่าเปรียบเทียบวงเงินชดเชยว่างงานตามมาตรการฯ ของคลัง 5 พันบาทต่อคนต่อเดือน ยังต่ำกว่ามาตรการของสำนักงานประกันสังคมที่จ่าย 7.5 พันบาทต่อคนต่อเดือน เพราะแรงงานในระบบประกันสังคมต้องนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนด้วย
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ยืนยันการเยียวยากลุ่มแรงงานนอกระบบประกันสังคมทั้ง 3 ล้านคน ตามมาตรการดูและเศรษฐกิจและบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระยะ 2 ของกระทรวงการคลังนั้น น่าจะครอบคลุมกลุ่มผู้ตกงานได้ เมื่อพิจารณาจากจำนวนแรงงานไทยที่มีทั้งสิ้น 36 ล้านราย และอีก 16 รายจะอยู่ในระบบประกันสังคม ส่วนที่เหลืออีก 20 ล้านคนจะอยู่ในกลุ่มแรงงานอิสระ
แต่อย่างไรก็ตาม จากการพิจารณาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ พบว่าจะมีจำนวนลูกจ้างที่อยู่นอกระบบซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากการถูกปิดกิจการอยู่ประมาณ 3 ล้านราย ทั้งนี้ เมื่อหักจำนวนกลุ่มเกษตรกรอีกประมาณ 4-5 ล้านราย ซึ่งกระทรวงการคลังจะมีแนวทางให้ความช่วยเหลือในรอบต่อไป และหักจำนวนนักศึกษาที่มีอายุ 18-21 ปีซึ่งมีจำนวนรวมอีกหลายล้านรายแล้ว กระทรวงการคลังก็คาดว่าจำนวนแรงงานนอกระบบฯ ที่มีความเดือดร้อนจริงๆ น่าจะมีไม่เกิน 3 ล้านราย
แต่หากมีจำนวนผู้ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือมากกว่านี้แล้ว กระทรวงการคลังก็พร้อมที่จะดูแล ส่วนเงินงบประมาณที่จีดเตรียมไว้รองรับมาตรการจ่ายเงิยชดเชยแรงงานที่ตกงานในกลุ่มนี้จะมีอยู่ราว 4.5 หมื่นล้านบาท ส่วนการตรวจสอบข้อมูลการลงทะเบียนของแรงงานที่อยู่นอกระบบ อีกทั้งนังยืนยันว่าการตรวจสอบข้อมูลหลังการลงทะเบียนรับเงินชดเชยจากกระทรวงการคลังนั้น สามารถดำเนินการได้หลากหลายวิธีในการตรวจสอบ
ผู้อำนวยการ สศค. ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การเปรียบเทียบถึงการจ่ายเงินชดเชยให้กลุ่มอาชีพอิสระตามมาตรการของกระทรวงการคลังนั้น อาจจะน้อยกว่าลูกจ้างในระบบประกันสังคมที่จะได้รับเงินชดเชยจากสำนักงานประกันสังคมสูงสุด 7,500 บาทต่อคนต่อเดือนนั้น เป็นเรื่องที่นำไปเปรียบเทียบกันไม่ได้ เนื่องจากลูกจ้างในระบบประกันสังคมนั้นต้องถูกหักเงินเดือนในแต่ละเดือนเพื่อจ่ายสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม การกำหนดจ่ายเงินชดเชยแรงงานนอกระบบเดือนละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน รวมเป็นเงิน 15,000 บาทนั้น ได้มีการพิจารณาแล้วว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม แต่หากยังผู้ที่ได้รับเงินชดเชยเห็นว่ายังไม่เพียงพอแล้วก็สามารถขอกู้เงินจากโครงการสินเชื่อฉุกเฉินเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการดำรงชีวิตจากธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้ (ธ.ก.ส.) ได้