โบรกเกอร์ ประสานเสียง หั่นกำไรกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปีนี้ลง 19% จากเดิมคาด 1.71 แสนล้านบาท รับผลกระทบเศรษฐกิจชะลอ - กนง. ลดดอกเบี้ย ทำสินเชื่อทรุด NIM หด แต่ยังแนะนำ “BBL” เป็นหุ้นเด่น
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยปรับลดประมาณการกำไรกลุ่มธนาคารปีนี้ลงมาอยู่ที่ 134,253 ล้านบาท หรือ ลดลง 19% จากเดิมอยู่ที่ 171,000 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และ เชื่อว่าในการประชุมวันนี้ (25 มี.ค.63) จะปรับลดลงอีก 0.25%
อย่างไรก็ตาม หาก กนง. ปรับลดดอกเบี้ยลงอีก เชื่อว่าธนาคารพาณิชย์ก็จะปรับลดดอกเบี้ยลงตาม ส่งผลกระทบต่อกำไรของธนาคาร ซึ่งหุ้นกลุ่มธนาคารที่ฝ่ายวิจัยยังแนะนำให้ “ซื้อ” ยังเป็นธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL ราคาเป้าหมาย 176 บาท/หุ้น โดยประมาณการกำไรของ BBL อยู่ที่ 36,900 ล้านบาท
เขากล่าวว่า การปรับดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. เมื่อวันศุกร์ เป็นแรงกดดันให้ธนาคารปรับดอกเบี้ยลง ซึ่งส่งผลกระทบเชิงลบต่อกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะ NIM ปรับลดลง และ การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ธนาคารต้องออกมาตรการต่างๆ เช่น พักชำระเงินต้น ยืดระยะเวลาการชำระหนี้ ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของกลุ่มธนาคาร
ASPS หั่นกำไรลดลง 4.3 หมื่นล้านบาท
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มธนาคารฝ่ายวิจัยได้ปรับลดกำไรลงประมาณ 43,000 ล้านบาท โดยฝ่ายวิจัยปรับกําไรสุทธิกลุ่มธนาคาร 9 ธนาคารไม่รวม TCAP ลง 20% มาอยู่ที่ 147,000 ล้านบาท ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่มีแนวโน้มชะลอตัว และ ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่บนสมมติฐานที่ กนง. จะลดดอกเบี้ย 0.5% ในปีนี้ โดยทุกๆ 0.25% จะกระทบกําไรกลุ่มประมาณ 5%
นอกจากนี้ได้ปรับอัตราการเติบโตสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ทั้ง BBL , ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK ธนาคารกรุงไทย หรือ KTB และ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB จากเดิมมองเติบโต 3- 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เป็นทรงตัวจากปีก่อน ส่วนธนาคารที่เน้นสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อย่าง ธนาคารเกียรตินาคิน หรือ KKP และ ธนาคารทิสโก้ หรือ TISCO กลับอ่อนตัว 5% YoY หลังยอดขายรถยนต์ในประเทศ 2 เดือนอ่อนตัว 12.7% YoY และ ยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งปีมีแนวโน้มลดลงราว 11% YoY