“กอช.” เผยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กดยอดผู้สมัครสมาชิกใหม่ต่อเดือนลดลง 50% ขณะที่ผลตอบแทนการลงทุนตั้งแต่ต้นปี 63 ถึงปัจจุบันทำผลงานได้แค่ 1% ประกาศจับมือ “บมจ.ไทยประกันภัย” มอบสิทธิ 3 แผนประกันภัยโควิด 3 ให้สมาชิก
น.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวถึงเป้าหมายในการขยายจำนวนสมาชิกของ กอช. ในปี 63 ว่า กอช. ตั้งเป้าจะเพิ่มสมาชิกทั้งหมดให้เป็น 3 ล้านราย จากปัจจุบันที่มีสมาชิกรวมแล้วทั้งสิ้น 2.4 ล้านราย อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวนั้นจำนวนสมาชิกใหม่เข้าร่วมกองทุนฯ ได้ลดลงเหลืออยู่ราว 20,000-30,000 ราย/เดือน หรือลดลงลดลงราว 50% เมื่อเทียบจากเดิมที่เคยมีสมาชิกเพิ่มขึ้นราว 50,000-60,000 ราย/เดือน ส่วนการออมของสมาชิกเดิมมีแนวโน้มเพิ่มจาก 100-200 บาทต่อเดือน เป็น 300-500 บาท/เดือน
ด้านเงินกองทุนสะสมของ กอช. ในปัจจุบันจะอยู่ที่ 7,000 ล้านบาท ขณะที่สัดส่วนการลงทุนของ กอช. นั้น 80% จะเห็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่ความเสี่ยงต่ำ ซึ่งประกอบไปด้วย ตราสารหนี้และพันธบัตรรัฐบาล ส่วนในปัจจุบันจะอยู่ที่ 20% จะเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง โดยการลดลงสัดส่วนการลงทุนดังกล่าวนั้นเป็นผลมาจากการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเริ่มมีความผันผวนมาตั้งแต่ปี 62 อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนการลงทุนโดยรวมที่กอช. ได้รับในปี 62 จะอยู่ที่ระดับ 4.4% ขณะที่ผลตอบแทนการลงทุนตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงปัจจุบันจะอยู่ที่ระดับ 1%
ส่วนอัตราการออมก็ลดลงเช่นเดียวกัน ตั้งแต่ต้นปี 2563 พบว่า มีอัตราการชะลอจ่ายเงิน แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีสมาชิกบางรายออมเพิ่มขึ้นอยู่ จากเดิมที่ออมเฉลี่ยเดือนละ 200 บาทต่อเดือน เพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ย 300-500 บาทต่อเดือน ส่วนสมาชิกที่จ่ายเงินครบเพดานที่กำหนดไว้ทั้งปีมีเพียง 10% ซึ่ง กอช.จะพยายามสร้างตัวแทนจากชุมชนที่อาศัยความร่วมมือจากกองทุนหมู่บ้าน และสภาเกษตรกรจังหวัด ให้ความรู้ประชาชน และเข้าร่วมเป็นสมาชิกกับ กอช.ด้วย
นอกจากนี้ เลขาธิการ กอช. ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงความร่วมมือระหว่าง กอช. และ บริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIC ในการดูแลด้านสวัสดิการเพื่อรองรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้แก่สมาชิกของ กอช. ว่า บมจ. ไทยประกันภัย พร้อมจะดูแลเรื่องประกันภัยเพื่อคุ้มครองสมาชิกในแบบที่ครอบคลุมตลอดระยะเวลา 1 ปี
ทั้งนี้ แผนประกันจากความร่วมมือดังกล่าวนี้ จะประกอบไปด้วย แผนที่ 1 กำหนดเบี้ยประกันไว้ที่ 290 บาท/ปี โดยหลังการตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งแรก จะให้คุ้มครองค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาล 50,000 บาท ส่วนในกรณีที่เสียชีวิตจะได้รับเงินประกัน 150,000 บาท ส่วนแผนที่ 2 กำหนดเบี้ยประกัน 490 บาท/ปี โดยหลังการตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งแรก จะให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล 75,000 บาท ส่วนในกรณีที่เสียชีวิตจะได้รับเงินประกัน 225,000 บาท และแผนที่ 3 กำหนดเบี้ยประกัน 590 บาท/ปี โดยหลังการตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 จะให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล 100,000 บาท ส่วนกรณีที่เสียชีวิตจะได้รับเงินประกัน 300,000 บาท
นอกจากนี้ เลขาธิการ กอช. ยังกล่าวอีกว่า กอช. ยังได้ร่วมกับ บมจ.ไทยประกันภัย เพื่อให้ความดูแลในเรื่องประกันภัย เพื่อคุ้มครองสมาชิกครอบคลุมตลอด 1 ปี ได้แก่ แผนประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล PA คุ้มครองระยะเวลา 1 ปี ในชุด “พี่ช้าง 365” แผนประกันภัยกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ 2 พลัส และแผนประกันภัยกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ 3 พลัส ซึ่งสมาชิก กอช.ที่จะรับประกันดังกล่าวจะต้องดำเนินการตามเงื่อนไขของบริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ กอช. ยังมีสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมให้สมาชิกอีกหลากหลายรูปแบบ ทั้งการจัดโปรโมชันส่งเสริมการออมเงินสะสมเต็มจำนวน 13,200 บาท จะได้รับของที่ระลึก กระเป๋าเดินทางพับได้ โดย กอช. จะจัดส่งให้สมาชิกถึงบ้านตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ในรายละเอียดการสมัคร และกิจกรรมอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้สำหรับสมาชิก กอช. อีกมากมาย
ด้าน นายมหัทธนะ อัมพรพิสิฏฐ์ กรรมการผู้จัดการ TIC กล่าวว่า บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยที่เป็นแรงงานนอกระบบได้มีเงินออมไว้ใช้หลังอายุ 60 ปี พร้อมทั้งมอบสิทธิประโยชน์แก่สมาชิก กอช. ได้รับความคุ้มครองประกันภัยให้สมาชิกได้เลือกความคุ้มครองตามต้องการ เช่น แผนประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล PA ในชุด “พี่ช้าง 365” เพียง 365 บาทต่อปี ได้รับวงเงินคุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร 50,000 บาท คุ้มครองค่าปลงศพ 20,000 บาท คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ 5,000 บาท ในส่วนของแผนประกันภัยกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ 2 พลัส และแผนประกันภัยกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ 3 พลัส สมาชิกจะได้รับสิทธิเงินสนับสนุนการออมสูงสุด 20% ของเบี้ยประกันสุทธิ โดยการโอนเป็นเงินออมสะสมเข้าบัญชีสมาชิกของ กอช. ซึ่งสมาชิก กอช. ที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.63
