“ทีมกรุ๊ป” กางแผนธุรกิจปี 2563 วางเป้ารายได้เติบโต 10% ตุนแบ็กล็อกในมือ 3,800 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
นายอภิชาติ สระมูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG เปิดเผยว่า ในปี 2563 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% จากปี 2562 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,846.27 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีการควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งช่วยสนับสนุนให้อัตราการทำกำไรของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 3,800 ล้านบาท โดยจะมีการทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการรอรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆ อีกมากมาย อาทิ งานโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ เช่น งานควบคุมการก่อสร้างโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง งานบริหารโครงการและควบคุมงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู งานออกแบบรายละเอียดโครงการรถไฟใต้ดินสายสีส้มตะวันออก งานบริหารโครงการและควบคุมงานก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ งานควบคุมงานก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ซึ่งล้วนแต่เป็นโครงการเมกะโปรเจกต์
อีกทั้งบริษัทยังอยู่ระหว่างการรอรับรู้รายได้จากงานโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้แก่ โครงการสนับสนุนสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เพื่อบริหารและกำกับสัญญาโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก งานบริหารโครงการก่อสร้างทางวิ่งและทางขับที่ 2 ของท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา
ขณะเดียวกัน ในปี 2563 บริษัทจะมีการลงนามสัญญา ได้แก่ งานควบคุมการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ประกอบกับพระราชบัญญัติงบประมาณปี 2563 ได้รับอนุมัติแล้ว จึงมีส่วนเร่งการขับเคลื่อนการลงทุนของภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งใน EEC และทั่วประเทศ ทำให้ปีนี้จะมีการลงทุนของภาครัฐจำนวนมาก ซึ่งเป็นงานในเป้าหมายที่บริษัทคาดการณ์ไว้ เช่น งานระบบรางต่างๆ งานโครงสร้างพื้นฐานใน EEC งานอุโมงค์ระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร รวมถึงงานโครงการระบบผลิตและระบบส่งน้ำของการประปานครหลวง
นอกจากนี้ ในปี 2563 บริษัทจะมีการขยายการลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (Related Business) เช่น โครงการผลิตน้ำประปา โครงการบำบัดน้ำเสีย โครงการพลังงานทดแทน เพื่อสร้างแหล่งรายได้ประจำ (Recurring Income) นอกเหนือจากการเป็นที่ปรึกษาเพียงอย่างเดียว
“จากกรณีสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งกำลังแพร่กระจายไปทั่วโลก และในแต่ละประเทศมีความรุนแรงแตกต่างกันตามระยะ บริษัทได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและยังไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว และในปัจจุบันภาครัฐยังมีการเร่งลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้มีงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทได้รับผลบวกจากงานที่ออกมา ทำให้บริษัทมีการเดินหน้าวางแผนเข้ารับงานอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง และสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต” ดร.อภิชาติกล่าว