“ภากร” ระบุหุ้นไทยหลุด 1,400 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี จากความกังวลการระบาดของโควิด-19 ที่ลุกลามทั่วโลก มั่นใจเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นหุ้นไทยจะรีบาวนด์ได้เร็ว แนะหาโอกาสลงทุนในหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบ
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปี 2563 ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงมา 8.91% ดัชนีหลุดระดับ 1,400 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี สาเหตุเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19 ที่เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งผลกระทบต่อ Sector ในแต่ละกลุ่มไม่เท่ากัน บาง Sector กระทบมาก บาง Sector ก็กระทบน้อย เช่น หมวดของใช้ในครัวเรือนและสำนักงานปรับเพิ่มขึ้น 2.35% กระดาษและวัสดุการพิมพ์เพิ่มขึ้น 1.05% ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น 0.54% เงินทุนและหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 5.06% เกษตรและอุตสาหกรรมอาหารลดลง 3.23% ดังนั้น ขอให้นักลงทุนพิจารณาจากข้อมูล อย่าตื่นตระหนก ให้เลือกหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบ โดยมั่นใจว่าเมื่อสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ดีขึ้นตลาดหุ้นไทยจะกลับมาบวกได้ เงินลงทุนต่างชาติจะไหลกลับมา เพราะเงินต่างชาติไม่ได้ไหลออกจากประเทศไทย แต่ย้ายการลงทุนจากตลาดหุ้นไปตลาดตราสารหนี้ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ลงมาต่ำมากอยู่ที่ 1.1% ซึ่งยังมั่นใจในความแข็งแกร่งของพื้นฐานเศรษฐกิจและบริษัทจดทะเบียนไทยที่มีความหลากหลายของอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นจุดแข็งของไทย
“เมื่อไหร่ก็ตามที่ความไม่แน่นอนชัดเจนขึ้นนักลงทุนก็จะกลับมาลงทุนในประเทศไทย เพราะตลาดหุ้นไทยมีน้ำหนัก 2.7-2.8% ในดัชนี MSCI ดังนั้น กองทุน PASSIVE ก็จะต้องกลับเข้ามาลงทุนในไทย เงินทุนต่างชาติก็จะไหลกลับ หุ้นที่ปรับตัวลดลงในกลุ่มอุตสาหกรรมการบิน ท่องเที่ยว และ Well-Being ก็จะรีบาวนด์ เพราะกลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้เป็นจุดแข็งของประเทศไทย” นายภากรกล่าว
นายภากรกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาการลงทุนในหุ้นไทยมีความแข็งแกร่ง สามารถฟื้นตัวจากเหตุการณ์ต่างๆ ได้ภายในเวลาอันสั้น ใช้เวลาไม่ถึง 3 เดือน เช่น ภาวะที่เกิดการระบาดของโรคซาร์ส การชุมนุมทางการเมือง ยกเว้นช่วงน้ำท่วมที่เกิดผลกระทบต่อระบบการผลิต ซึ่งในช่วง 3 วันที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงแต่ละวันก็มีการรีบาวนด์ตัวได้ และมีมูลค่าการซื้อขายค่อนข้างมาก เพราะมีนักลงทุนเข้าสะสมหุ้นพื้นฐานดี ปันผลสูง ที่ราคาถูก