ผลธัญญะประกาศผลงานปี 62 กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 41.42 ล้านบาท โต 13.44% รายได้อยู่ที่ 911.85 ล้านบาท ไฟเขียวจ่ายปันผลในงวดครึ่งปีหลังอีกหุ้นละ 0.10 บาท กำหนดจ่าย 20 พฤษภาคมนี้ พร้อมกางแผนปี 63 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15%
นายบุญชัย สุวรรณวุฒิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดประจำปี 2562 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2562) มีรายได้จากการขายและให้บริการรวมอยู่ที่ 911.85 ล้านบาท ลดลง 1.36% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ ลดสัดส่วนงานก่อสร้างในธุรกิจด้านระบบน้ำ ขณะที่ธุรกิจหลักกลุ่มสินค้าและบริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (Safety) ยังมีการเติบโต ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและงบประมาณภาครัฐล่าช้า
อย่างไรก็ตาม กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 236 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.68% และมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นอยู่ที่ 25.88% เนื่องจากต้นทุนสินค้าลดลง จากค่าเงินบาทแข็งค่า และไม่มีต้นทุนส่วนเกินจากงานก่อสร้าง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง ส่งผลให้กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 41.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13.44% และมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 4.49%
สำหรับรายได้ในปี 2562 ธุรกิจกลุ่มสินค้าเพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน หรือ SAFETY มีสัดส่วนอยู่ที่ 78.90% ของรายได้จากการขายและให้บริการทั้งหมด เติบโตจากปีก่อนเล็กน้อย จากลูกค้าหน่วยงานราชการและลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ด้านธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อการควบคุมสภาพแวดล้อม หรือ CE มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 18.42% ลดลงตามตลาดการส่งออกในลูกค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ลดอัตรากำลังการผลิต เนื่องจากได้รับผลกระทบสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ สำหรับธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าและบริการด้านระบบบำบัดน้ำเพื่ออุปโภคหรือบริโภค หรือ WATER มีสัดส่วนอยู่ที่ 2.68% โดยมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการติดตั้งโครงการระบบน้ำในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ขณะที่มีนโยบายงดรับงานก่อสร้าง รายได้รวมในธุรกิจน้ำจึงลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติการจ่ายปันผลเป็นเงินสด จากผลการดำเนินงานปี 2562 ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท โดยบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.05 บาทแล้ว คงเหลือปันผลที่จะจ่ายในงวดครึ่งปีหลังอีกในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท โดยจะขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เมษายน 2563 นี้ กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิประชุมผู้ถือหุ้น (XM) และไม่ได้รับสิทธิรับปันผล (XD) วันที่ 5 มีนาคม 2563 กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิประชุมผู้ถือหุ้นและได้รับปันผล (Record date) วันที่ 6 มีนาคม 2563 และวันที่จ่ายปันผลวันที่ 20 พฤษภาคม 2563
สำหรับภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2563 คาดว่าจะเติบโตขึ้นจากปี 2562 ที่ผ่านมา ตั้งเป้ารายได้ เติบโต 10-15% โดยธุรกิจกลุ่มเซฟตี้มองว่าจะมีการขยายตัวที่ดีต่อเนื่องจากการลงทุนและขยายงานในภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งมีความจำเป็นต้องการใช้อุปกรณ์ป้องกันภัยที่ได้มาตรฐานเป็นจำนวนมาก ประกอบกับพฤติกรรมของลูกค้าให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น โดยสินค้ากลุ่มเซฟตี้มีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีตามยุคสมัยตลอดเวลา เพื่อการนำเสนอสินค้าที่ได้มาตรฐาน และการบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญในการศึกษาและคัดสรรสินค้าใหม่ๆ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม อีกทั้งเป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าเพิ่มเติม
ด้านธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อการควบคุมสภาพแวดล้อม มุ่งเน้นการพัฒนาปรับปรุงสินค้าใหม่ เพิ่มเติมรายการสินค้า เพื่อรองรับการใช้งานของลูกค้าแต่ละราย สำหรับธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าและบริการด้านระบบบำบัดน้ำเพื่ออุปโภคหรือบริโภค คาดปีนี้จะเห็นการเติบโตที่ชัดเจนยิ่งขึ้น จากการให้บริการโครงการระบบน้ำในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเป็นหลัก มีปัจจัยสนับสนุนจากลูกค้าที่มีแนวโน้มให้ความสำคัญในด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ทั้งเรื่องการดูแลบำบัดน้ำเสีย และการทำระบบรีไซเคิลน้ำเพื่อลดต้นทุนและแก้ปัญหาภัยแล้ง และจากการปูฐานเจาะกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมาส่งผลให้ลูกค้ารู้จักและเลือกใช้บริการกับบริษัทฯ มากขึ้น