xs
xsm
sm
md
lg

“ฟอร์จูน พาร์ทฯ” โตแรงไม่มีหยุด อวดกำไรปี 62 พุ่ง 48.78%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



FPI ประกาศกำไรปี 62 พุ่งแตะ 186.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.78% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ผลจากยอดขายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ต่างประเทศทั้งเอเชียและตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น 17% สอดคล้องกับยอดงาน OEM ของกลุ่มโตโยต้า อีซูซุ และมิตซูบิชิ มีเข้ามาต่อเนื่อง ขณะที่ควบคุมต้นทุนอัตราแลกเปลี่ยนได้ดีแม้เงินบาทแข็งค่า ล่าสุดบอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.045 บาท ฟาก "สมพล ธนาดำรงศักดิ์" บอสใหญ่ มั่นใจปี 63 ผลงานโดดเด่น ตั้งเป้ารายได้โต 20% หลังถือหุ้น 100% บริษัทย่อยในอินเดีย พร้อมรับรู้รายได้เต็มพิกัด

นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 2562 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 186.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.78% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 125.55 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 2,073.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.99% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 1,919.74 ล้านบาท

ปัจจัยที่สนับสนุนให้มีกำไร และรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากยอดขายต่างประเทศภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น 17% จากการขายให้แก่ลูกค้ารายใหญ่ในประเทศซาอุดรอาระเบีย สอดคล้องกับยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น 23% จากงาน OEM ของรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ไดฮัทสุ มิตซูบิชิ และมาสด้า BT50 โดยบริษัทขายสินค้าผ่านบริษัทในประเทศไทยเพื่อส่งออกไปในประเทศญี่ปุ่นและอื่นๆ นอกจากนี้ รายได้โซนอเมริกาใต้เพิ่มขึ้น 19% จากลูกค้ารายใหญ่มีการขยายสาขาเพิ่มเติม อีกทั้งบริษัทได้มีนโยบายขายสินค้าให้ลูกค้ารายเดียวที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงในบางประเทศทำให้เพิ่มยอดขายลูกค้าโซนดังกล่าวได้ในปี 2562

อย่างไรก็ตาม ยังมีการรับรู้รายได้ และกำไรที่เป็นส่วนแบ่งจากการลงทุนของบริษัทร่วม บริษัท เซฟ เอนเนอร์จี โฮลดิ้งส์ จำกัด (SAFE) ในฐานะบริษัทร่วมค้าของ FPI บริษัทฯ เข้าลงทุนใน SAFE ที่สัดส่วน 33.37% ปัจจุบันสามารถรับรู้ผลการดำเนินงานของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ขนาด 7.5 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถบริหารโดยควบคุมต้นทุนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้ดี แม้ว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่า ซึ่งทำให้บริษัทฯ ยังรักษาความสามารถการทำกำไรไว้ได้

ทั้งนี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้จ่ายเงินปันผลเพิ่มประจำงวด 6 เดือน ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม 2562 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.045 บาทต่อหุ้น โดยจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 และจ่ายเป็นเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 21 พฤษภาคม 2563

"สำหรับผลงานปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ทำได้ดีและเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศจะชะลอตัวแต่บริษัทฯ ยังรักษาการเติบโตได้ทั้งรายได้และกำไร ดังนั้นทำให้มั่นใจว่าในปี 2563 จะยังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง" นายสมพลกล่าวในที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น