BEAUTYกางแผนธุรกิจปี 2563 ยกระดับสู่การเป็น InternationalBeauty & Health Business ชู 3 กลยุทธ์ ขับเคลื่อนธุรกิจเพิ่มความสามารถการทำกำไร ขยายตลาด 15 ประเทศ พร้อมเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในจีนด้านตลาดในประเทศ ขยายช่องทางจัดจำหน่าย Consumer Product ปั๊มยอดขาย ตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% รักษาอัตรากำไรสุทธิ15 %
นายแพทย์สุวินไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิวภายใต้แนวคิด Live a Beautiful Life เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทมีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจด้วยนโยบาย InternationalBeauty & Health Business เพื่อยกระดับแบรนด์สินค้าภายใต้การจำหน่ายของบริษัทเข้าสู่การเป็นแบรนด์ด้านความงามและสุขภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยกลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนธุรกิจและแผนการดำเนินงานของบริษัทจะมุ่งเน้นใน3 ด้านหลัก ประกอบด้วย
1. เพิ่มความสามารถการทำกำไร (Strengthening profitability both domestic and overseasbusiness) :โดยมุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนกำไรจากช่องทางจัดจำหน่ายต่างประเทศและบริหารจัดการต้นทุนช่องทางการจัดจำหน่ายในประเทศให้มีประสิทธิภาพ
2. ขยายตลาดต่างประเทศเชิงรุก(Overseas: Cultivating and expanding overseasbusiness) จำนวน 16 ประเทศ โดยมี 13ประเทศที่เป็นตัวแทนจำหน่ายในปี 2562 ซึ่งจะเน้นการทำการตลาดร่วมกันและเพิ่มจำนวนSKUs สินค้า และมีอีก 5 ประเทศหลักที่เน้นการทำการตลาดเฉพาะในปี2563มีแผนจะ-พัฒนาช่องทางการตลาดและการขายเข้มข้น คือ ประเทศ เวียดนาม อินโดนีเซียพม่า อินเดีย ฟิลิปปินส์ ในรูปแบบของตัวแทนจำหน่าย Product Distributor,Shop Licence , Shop in Shop หรือ Counter sales
ขณะเดียวกันบริษัทเน้นการรุกตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีน(Mainland China)ต่อเนื่อง โดยบริษัทมีแผนศึกษาการสร้างฐานธุรกิจในประเทศจีนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขยายตลาดและเพื่อความสะดวกในการพัฒนาสินค้าใหม่และการบริหารจัดการตลาดในประเทศจีน เพราะเล็งเห็นว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่มีโอกาสทางธุรกิจสูงอีกทั้งบริษัทมีแผนเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดจากช่องทางจำหน่ายร้านค้าทั่วไป ( GeneralTrade )เช่น คอนวีเนียนสโตร์ โมเดิร์นเทรดต่างๆ และช่องทางออนไลน์ที่เป็นอีคอมเมิรซ์พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการขาย -นอกจากนั้นได้ขยายจำนวนสินค้าใหม่ๆเข้าไปจำหน่ายในช่องทางCross Border E-Commerce อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2562บริษัทมีสินค้าวางจำหน่ายแล้วจำนวน 10 Platforms และในปีนี้มีแผนเจรจาเพิ่มจำนวน Platform อีกต่อเนื่อง
3. ตลาดในประเทศมุ่งเน้นขยายตลาดกลุ่มสินค้าอุปโภค และสร้างความเข้มแข็งช่องทางร้านค้าปลีก(Domestic : Expanding distribution channels for Consumer Products andimproving retail business) ตลาดในประเทศ มุ่งเน้นขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆที่มีโอกาสเติบโตสูงและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้นที่ไม่จำกัดเฉพาะร้านสาขา พร้อมขยายกลุ่มสินค้าอุปโภค (Consumer Product) และสินค้าสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยมีแผนจะพัฒนาสินค้าด้านสุขภาพร่วมกับผู้ผลิตสินค้าชั้นนำด้านนี้เพิ่มขึ้นอีกทั้งยังมุ่งเน้นเพิ่มช่องทางการตลาดที่หลากหลายเพื่อเปิดช่องทางจัดจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
ช่องทางร้านค้าปลีก (Retail Business Models) มุ่งเน้นการเพิ่มอัตราการเติบโตสาขาที่มีศักยภาพพัฒนาปรับปรุงและสร้างความเข้มแข็งให้ช่องทางร้านค้าปลีก พร้อมทั้งบริหารจัดการต้นทุนในการขายและบริหารอย่างมีประสิทธิภาพโดยการบริหารร้านค้าปลีกเน้นการทำการตลาดได้ด้วยตัวร้านค้าปลีกเอง (LocalStore Marketing) ,สร้างโมเดลการขายสินค้าที่เป็นสินค้า MultiBrand เข้ามาจำหน่ายในร้าน Beauty Buffet เพื่อจำหน่ายสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ครอบคลุมปัจจุบันบริษัทมีสาขารวมทั้งสิ้น 311 สาขา
ช่องทางอีคอมเมิร์ซ(E-Commerce) ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงพัฒนาและบริหารจัดการโครงสร้างระบบอีคอมเมิร์ซให้มีประสิทธิภาพวางเป้าหมายรุกตลาดออนไลน์ ด้วยกลยุทธ์ O2O และพันธมิตรรวมถึงพัฒนาระบบรองรับพฤติกรรมการจับจ่ายผ่านมือถือของบริษัทเอง ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยผลักดันให้บริษัทมีรายได้เติบโตก้าวกระโดด
มุ่งเน้นพัฒนาสินค้าหลัก- (Product Driven) ขับเคลื่อนยอดขายให้เติบโตโดยการสร้างProduct Heros ที่มีกระแสดึงดูดลูกค้าทั้งสินค้าเดิมที่มีอยู่แล้วและสินค้าใหม่เน้นสินค้าที่เป็นอินโนเวชั่นตามเทรนด์แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
จากการดำเนินงานในปี 2562 ถือเป็นการปรับธุรกิจตามยุทธศาสตร์ใหม่บริษัทได้พัฒนาตลาด วางรากฐานช่องทางในตลาดต่างประเทศ ,สินค้ากลุ่มอุปโภค รวมถึงการวางแนวทางE-Commerceชัดเจนเพื่อเป็นฐานการขยายตลาดในปี 2563 และสำหรับภาพรวมธุรกิจเครื่องสำอางปี 2563 คาดว่ายังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกที่ให้ความใส่ใจเกี่ยวกับความงามสุขภาพและผิวพรรณต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ด้านความงามและสุขภาพมีความหลากหลายเพิ่มขึ้นตามซึ่งการขยายตัวดังกล่าวเป็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่จะสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงผู้บริโภคทั้งในประเทศและในระดับนานาชาติซึ่งในปีนี้ BEAUTY วางเป้าหมายรายได้เติบโต 20% พร้อมรักษาอัตรากำไรสุทธิ 15%