กสิกรไทย ประกาศลดเรทแลกเงินตราต่างประเทศ ด้วยจุดแข็ง “KBank เรท GEN ใหม่ ถูกแน่ไม่ต้องเทียบ” ตอบโจทย์ลูกค้าคนไทยที่เดินทางต่างประเทศเป็นประจำโดยไม่จำกัดวงเงินในการแลก
นายวีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า ในปี 2562 มีจำนวนประมาณ 10 ล้านคน และมีมูลค่าการใช้จ่ายในต่างประเทศประมาณ 385,000-390,690 ล้านบาท ไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ลูกค้าใช้สื่อดิจิทัลในการหาข้อมูลเปรียบเทียบ เช่น ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก เพื่อให้ได้รับความคุ้มค่ามากที่สุด เป็นยุคที่ธนาคารหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางท่องเที่ยวต้องปรับตัวให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า ด้วยการนำเทคโนโลยีและข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการให้ตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้ได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับเป้าหมายสำคัญของธนาคาร คือ การเป็น “ธนาคารแห่งภูมิภาค” ดังนั้นการให้บริการของธนาคารจึงเปลี่ยนรูปแบบไปจากเดิม โดยมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าที่เดินทางหรือติดต่อกับต่างประเทศเป็นประจำทั้งในเชิงธุรกิจการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษา และเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของลูกค้า โดยลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการใหม่ๆ มีทางเลือกในการใช้บริการที่หลากหลาย ไม่ได้จำกัดอยู่แค่กรอบการให้บริการการเงินแบบเดิมอย่างที่ธนาคารเคยทำมาอีกต่อไป ซึ่งในปีที่ผ่านมา ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์หรือบริการทางการเงินระหว่างประเทศที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง เช่น บริการโอนเงินระหว่างประเทศผ่าน K PLUS ร่วมมือกับ JCB และ VIA ให้บริการชำระเงินค่าสินค้าและบริการที่ต่างประเทศด้วย QR Code ผ่าน K PLUS ที่ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ บัตรเดบิต JOURNEY แอปพลิเคชัน YouTrip เป็นอี-วอลเลตที่รองรับหลายสกุลเงิน (Multi-Currency) ประกันเดินทางต่างประเทศ เป็นต้น
นายวีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า การที่ธนาคารประกาศปรับลดเรตแลกเงินตราต่างประเทศทุกสกุลเงิน เป็นการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคาร เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ให้ความสำคัญต่อความคุ้มค่า สะดวกสบาย โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ ลูกค้าคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศทั้งเพื่อการท่องเที่ยว ธุรกิจ และศึกษาต่อต่างประเทศ ด้วยคอนเซ็ปต์ “KBank เรท GEN ใหม่ ถูกแน่ไม่ต้องเทียบ” ลูกค้าจะได้เรตแลกเงินที่คุ้มค่าที่สุดจากธนาคาร โดยไม่ต้องเสียเวลาเปรียบเทียบเรต สะดวกสบายเมื่อต้องการแลกเงินตราต่างประเทศ เพราะธนาคารมีจุดแข็งที่ช่องทางบริการของธนาคารทั้งที่เป็นสาขาธนาคารและบูทแลกเงินทั้งในและนอกสนามบิน ตู้แลกเปลี่ยนเงินอัตโนมัติ รวมมากกว่า 1,000 แห่ง
ทั้งนี้ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นตลาดการเงินที่มีมูลค่าการทำธุรกรรมสูงสุดประเภทหนึ่ง โดยปัจจุบัน ธนาคารมีการเปิดให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตรารวม 28 สกุลเงิน โดย 6 สกุลเงินที่มีการแลกซื้อสูงสุดได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐ (USA) เยน (JPY) ยูโร (EUR) หยวน (CNY) วอน (KRW) และดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD)
นายวีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า ในปี 2562 มีจำนวนประมาณ 10 ล้านคน และมีมูลค่าการใช้จ่ายในต่างประเทศประมาณ 385,000-390,690 ล้านบาท ไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ลูกค้าใช้สื่อดิจิทัลในการหาข้อมูลเปรียบเทียบ เช่น ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก เพื่อให้ได้รับความคุ้มค่ามากที่สุด เป็นยุคที่ธนาคารหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางท่องเที่ยวต้องปรับตัวให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า ด้วยการนำเทคโนโลยีและข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการให้ตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้ได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับเป้าหมายสำคัญของธนาคาร คือ การเป็น “ธนาคารแห่งภูมิภาค” ดังนั้นการให้บริการของธนาคารจึงเปลี่ยนรูปแบบไปจากเดิม โดยมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าที่เดินทางหรือติดต่อกับต่างประเทศเป็นประจำทั้งในเชิงธุรกิจการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษา และเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของลูกค้า โดยลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการใหม่ๆ มีทางเลือกในการใช้บริการที่หลากหลาย ไม่ได้จำกัดอยู่แค่กรอบการให้บริการการเงินแบบเดิมอย่างที่ธนาคารเคยทำมาอีกต่อไป ซึ่งในปีที่ผ่านมา ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์หรือบริการทางการเงินระหว่างประเทศที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง เช่น บริการโอนเงินระหว่างประเทศผ่าน K PLUS ร่วมมือกับ JCB และ VIA ให้บริการชำระเงินค่าสินค้าและบริการที่ต่างประเทศด้วย QR Code ผ่าน K PLUS ที่ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ บัตรเดบิต JOURNEY แอปพลิเคชัน YouTrip เป็นอี-วอลเลตที่รองรับหลายสกุลเงิน (Multi-Currency) ประกันเดินทางต่างประเทศ เป็นต้น
นายวีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า การที่ธนาคารประกาศปรับลดเรตแลกเงินตราต่างประเทศทุกสกุลเงิน เป็นการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคาร เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ให้ความสำคัญต่อความคุ้มค่า สะดวกสบาย โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ ลูกค้าคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศทั้งเพื่อการท่องเที่ยว ธุรกิจ และศึกษาต่อต่างประเทศ ด้วยคอนเซ็ปต์ “KBank เรท GEN ใหม่ ถูกแน่ไม่ต้องเทียบ” ลูกค้าจะได้เรตแลกเงินที่คุ้มค่าที่สุดจากธนาคาร โดยไม่ต้องเสียเวลาเปรียบเทียบเรต สะดวกสบายเมื่อต้องการแลกเงินตราต่างประเทศ เพราะธนาคารมีจุดแข็งที่ช่องทางบริการของธนาคารทั้งที่เป็นสาขาธนาคารและบูทแลกเงินทั้งในและนอกสนามบิน ตู้แลกเปลี่ยนเงินอัตโนมัติ รวมมากกว่า 1,000 แห่ง
ทั้งนี้ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นตลาดการเงินที่มีมูลค่าการทำธุรกรรมสูงสุดประเภทหนึ่ง โดยปัจจุบัน ธนาคารมีการเปิดให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตรารวม 28 สกุลเงิน โดย 6 สกุลเงินที่มีการแลกซื้อสูงสุดได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐ (USA) เยน (JPY) ยูโร (EUR) หยวน (CNY) วอน (KRW) และดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD)