เอเอฟพี – เกาหลีเหนือจะแบนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อปกป้องตนเองจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่คล้ายซาร์ส ซึ่งคร่าชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 9 รายในจีนและมีผู้ติดเชื้อหลายร้อยคน บริษัทท่องเที่ยวใหญ่แห่งหนึ่ง เผย
หลายชาติรวมถึงสหรัฐฯ ได้ยกระดับการคัดกรองผู้โดยสารที่สนามบินเพื่อตรวจหาโคโรนาไวรัส ซึ่งปรากฏครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่นทางตอนกลางของจีน แต่นี่เป็นการสั่งห้ามนักท่องเที่ยวครั้งแรก
เชื้อไวรัสชนิดนี้สร้างความกังวลในจีนและต่างชาติ เนื่องจากมันเป็นสายพันธุ์เดียวกับโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง (ซาร์ส) ที่คร่าเกือบ 650 ชีวิตทั่วจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงในปี 2002-2003
นักท่องเที่ยวของเกาหลีเหนือส่วนใหญ่เป็นชาวจีน และจำนวนของพวกเขาก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีที่แล้วเนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งและเปียงยางแน่นแฟ้นขึ้น ป้อนเงินตราต่างประเทศจำนวนมากเข้าสู่รัฐสันโดษแห่งนี้
อย่างไรตาม ตั้งแต่วันพุธ (22) เป็นต้นไป เกาหลีเหนือปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดชั่วคราวเพื่อป้องกันโคโรนาไวรัส” บริษัทท่องเที่ยวในจีน ยัง ไพโอเนีย ทัวร์ ระบุในถ้อยแถลง และเสริมว่า ยังไม่มีการยืนยันรายละเอียดที่ชัดเจน
โคเรียว ทัวร์ ผู้นำตลาดสำหรับนักท่องเที่ยวตะวันตก กล่าวว่า พวกเขาได้รับแจ้งว่า “กำลังมีการพิจารณามาตรการนั้นอยู่” และคาดว่าจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมภายในวันนี้ (22)
เปียงยางเคยใช้มาตรการเดียวกันนี้ในอดีต พวกเขาปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นเวลากว่า 4 เดือนตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2014 เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสอีโบลา ถึงแม้ว่าจะไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อในเอเชียก็ตาม
เกาหลีเหนือบังคับใช้ช่วงเวลากักตัว 21 วันกับใครก็ตามที่เข้าประเทศ รวมถึงนักการทูตต่างประเทศและนักธุรกิจ
ในวันพุธ (22) หนังสือพิมพ์โรดองซินมุนของทางการเปียงยางไม่ได้พูดถึงมาตรการใดๆ ของเปียงยางต่อเชื้อไวรัสชนิดนี้ แต่รายงานการแพร่ระบาดในจีน และระบุว่า มันแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และว่า ทางการปักกิ่งกำลังใช้มาตรการที่สอดคล้อง
เกาหลีเหนือมีโครงสร้างพื้นฐานทางการแพทย์ที่ย่ำแย่และปัญหาขาดแคลนยาเรื้อรัง เมื่อตอนที่เกาหลีใต้เผชิญการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ที่สุดในโลกของโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (เมอร์ส) ช่วงฤดูหนาวปี 2015 เกาหลีเหนือสั่งห้ามนักการทูตและผู้ปฏิบัติงานต่างแดนไม่ไห้กลับประเทศบ้านเกิดเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
เปียงยางระงับทัวร์ชาวต่างชาติเป็นเวลา 3 เดือน เนื่องจากความกลัวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซาร์สเมื่อปี 2003