รมว.คลัง จับตาสถานการณ์สหรัฐฯ-อิหร่านใกล้ชิด เดินหน้าลดเหลื่อมล้ำ เพิ่มขีดความสามารถแข่งขันเศรษฐกิจฐานราก ยกระดับสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหารกระทรวงการคลังเป็นครั้งแรกของปี 2563 โดยระบุว่า ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานของกระทรวงการคลังประเมินเหตุการณ์สำคัญของโลก เช่น ผลกระทบเศรษฐกิจที่มีผลต่อประเทศไทย รวมทั้งการเมืองระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน
นายอุตตม ยังย้ำด้วยว่า กระทรวงการคลังมีบทบาทสำคัญที่จะต้องแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ได้มอบ 5 ยุทธศาสตร์ในการปฏิรูปประเทศ ปรับเปลี่ยนประเทศ คือ 1.การขับเคลื่อนพัฒนาฐานราก โดยปี 2563 จะยึดฐานเศรษฐกิจชุมชนและการท่องเที่ยว โดยมอบให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสินเป็น 2 หน่วยงานหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและการพัฒนาพื้นที่นั้นๆ นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้กรมบัญชีกลาง กรมธนารักษ์ และคลังจังหวัดเข้ามาช่วยพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน
2.การสนับสนุนเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัป จะเข้าไปดูแลผู้ประกอบการรายเล็ก รายกลาง ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ (7 ม.ค.) จะเสนอมาตรการขับเคลื่อนธุรกิจฐานราก 3.การขับเคลื่อนการลงทุนของภาครัฐ จะมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเข้าไปติดตามการลงทุนของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ชิด 4.การปรับสูตรรัฐบาลดิจิทัล โดยปี 2563 จะมีการต่อยอดระบบอีเพย์เมนต์ แอปพลิเคชันต่อยอดกับฐานข้อมูลของผู้บริโภค การค้า การขายของ โดยมอบหมายให้นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เข้าไปดูการทำงานเชื่อมโยงกับกระทรวงอื่น และ 5.การขับเคลื่อนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พร้อมกับการพัฒนาประเทศ จะมีการศึกษาการลงทะเบียนรอบใหม่ของบัตรประชารัฐ ซึ่งจะมีสวัสดิการอย่างอื่นเพิ่มเข้าไปด้วยในบัตรประชารัฐบัตรใหม่นี้