รองนายกรัฐมนตรี มอบการบ้านปีใหม่ สศช.ปรับบทบาทเสนอโครงการลงทุนสำคัญ ขับเคลื่อนการลงทุนในเขตอีอีซีเชื่อมโยงท้องถิ่น ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ดูแลสังคมผู้สูงอายุ ดูแลบัตรสวัสดิการประชารัฐ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายแก่ผู้บริหารสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เพื่อต้องการให้เร่งพัฒนาเรื่องความเหลื่อมล้ำ หลังจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ปรับเป้าหมายการทำงาน จึงต้องการให้ สศช.ช่วยคิดเป็นแพกเกจ หากเกษตรกรรุ่นใหม่สนใจลงทุนต้องดูแลครบวงจร ส่งเสริมอย่างจริงจังในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างครบวงจร ผลักดันเป็นแผนพัฒนาในปี 2563 ส่งเสริม ธ.ก.ส.ดูแลเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง สองคล้องต่อนโยบายรัฐบาล
นายสมคิด กล่าวว่า การพัฒนาเขตอีอีซีไม่มีล้มอย่างแน่นอน เพราะขั้นตอนทุกอย่างเดินหน้าไปตามกฎหมาย หลังปีใหม่ต้องการให้ สศช. ผลักดันการพัฒนาเขตอีอีซี การดูแลชุมชน สังคม เพื่อให้ภาคเกษตรแปรรูปในท้องถิ่นเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งการผลักดันโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก-ตะวันตก (EWC) เพื่อเชื่อมโยงโครงการขนาดใหญ่ในแต่ละภูมิภาค จากนั้นนำแผนการพัฒนาเศรษฐกิจรายภาค แจ้งให้นักลงทุนต่างชาติได้รับทราบ เพื่อรับรู้แนวทางพัฒนาในแต่ละภาคของไทย
นอกจากนี้ มีการส่งเสริมดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้ สศช.ร่วมหารือ เพื่อหลุดจากภาระหนี้ เข้มแข็ง มีสภาพคล่อง เพราะรัฐบาลกำลังพิจารณาออกมาตรการดูแลเอสเอ็มอี โดยเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีวันที่ 7 มกราคมนี้ และต้องการผลักดันส่งเสริมการท่องเที่ยว การช่วยเหลือคนตัวเล็กภาคบริการ เพราะเป็นการท่องเที่ยวบวกกับอุตสาหกรรม จะช่วยรองรับการว่างงานในอนาคต
ขณะเดียวกัน ยังแนะนำให้ สศช.เสนอโครงการลงทุนสำคัญด้วยตนเองหากเป็นโครงการสำคัญ ไม่ต้องรอให้หน่วยงานเสนอขึ้นมาฝ่ายเดียว รวมทั้งการเรียกประชุม กรอ.ภูมิภาค เพื่อผลักดันโครงการสำคัญในภูมิภาค เพื่อรับฟังปัญหาจากภาคเอกชนและท้องถิ่น และติดตามความคืบหน้าแผนลงทุน เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญ เมื่อศึกษาแผนลงทุนสำคัญจะได้เสนอในที่ประชุม กรอ. ภูมิภาค เพื่อขับเคลื่อนแผนงานสำคัญให้ประสบความสำเร็จ นับเป็นอีกช่องทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค
“สถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน สศช.ต้องเป็นแกนหลักในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ รวมทั้งโครงการ "ชิมช้อปใช้" นับเป็นโครงการที่มีความสำคัญ การให้บริการผ่านโครงการชิมช้อปใช้ นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก และต้องการให้ปรับรูปแบบการแถลงตัวเลขจีดีพีของ 3 หน่วยงาน กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สศช. เพื่อเน้นมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนภาครัฐในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เพราะน่าจะได้ประโยชน์มากกว่า จึงควรปฏิรูปการสื่อสารข้อมูลผ่านสื่อ รับรูปแผนการพัฒนาที่เป็นประโยชน์” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว