"สนธิรัตน์" สุดปลื้มหลังเครือข่ายธนาคารต้นไม้ 24 จังหวัดตบเท้าเข้าขอบคุณที่หนุนเกิดนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เผย "สมคิด" รองนายกฯ สั่งเร่งให้ดำเนินการเพื่อทำให้ชุมชนมีรายได้เพิ่ม มั่นใจระบบจะทำให้เกิดความยั่งยืนแน่นอน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยระหว่างการต้อนรับเครือข่ายวิสาหกิจธนาคารต้นไม้ 24 จังหวัดที่ได้ส่งตัวแทนเดินทางมาขอบคุณที่กำหนดนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากวันนี้ (20 ธ.ค.) ว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้เร่งดำเนินการให้เร็วสุดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากที่จะทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการมีสัญญาระยะยาวในการขายวัสดุทางการเกษตรที่จะป้อนเป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้าชุมชนและยังจะมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมด้วย ขณะเดียวกัน จะประสานกับนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นการต่อยอดสินค้าทางการเกษตร เช่น โครงการป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ฯลฯ ที่ประโยชน์ไม่ได้เพียงนำไปเป็นพลังงานอย่างเดียว
"ขณะนี้ชุมชน และผู้ประกอบการเองมีการตื่นตัวมาก ซึ่งการให้ชุมชนเข้าร่วมทุนในโรงไฟฟ้าชุมชน เช่น ขั้นต่ำ 10% นั้น เบื้องต้นจะกำหนดให้ชุมชนไม่ต้องใส่เงินร่วมทุน แต่จะขอให้นำเงินปันผลจากการขายไฟฟ้าในสัญญา 20 ปีมาจ่ายแทน รูปแบบการซื้อขายจะเป็น Contact Farming ซึ่งหากโรงไฟฟ้าเบี้ยวไม่ซื้อพืชจากชาวบ้าน ทางภาครัฐจะยกเลิกการซื้อไฟฟ้า" รมว.พลังงานกล่าว
นายนฤพล วันทูล ผู้จัดการเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนธนาคารต้นไม้ กล่าวว่า การเข้าพบนายสนธิรัตน์ในวันนี้เพื่อขอบคุณและให้กำลังใจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในการผลักดันให้เกิดโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้เกษตรกรมีโอกาสปรับเปลี่ยนอาชีพ แก้ไขผลผลิตทางการเกษตร และทำให้ชุมชนเข้มแข็ง ในโอกาสเดียวกันนี้ ทางพี่น้องตัวแทนเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนธนาคารต้นไม้ยังได้ร่วมอวยพรปีใหม่ให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานอีกด้วย
"เรามาเพื่อขอบคุณที่กำหนดนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชน ทำให้เครือข่ายมีรายได้เพิ่มจากการจำหน่ายหญ้าเนเปียร์ โดยศักยภาพของเครือข่ายมีพื้นที่จะปลูกพืชที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 700-800 เมกะวัตต์" นายนฤพลกล่าว