Private Banking กสิกรฯ ประเมินตลาดรวมปีหน้ายังมีความเสี่ยงปรับฐานหลังเติบโตได้ดีในปีนี้ เผย 5 กลยุทธ์ลงทุน ส่วนปี 62 ยังเติบโตดี พอร์ต K-Alpha ถึง 12.5%
นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group Head ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจ Kbank Private Banking ในปี 2562 ถือว่ายังเติบโตได้ดี โดยมีจำนวนลูกค้า 11,600 ราย เพิ่มขึ้น 4% มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ประมาณ 7.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2% เป็นสินทรัพย์ 4.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% และมีสินทรัพย์ลงทุนซับซ้อนเติบโตขึ้นถึง 24% ซึ่งสินทรัพย์ลงทุนคิดเป็นสัดส่วน 68% ของ AUM ที่เหลือ 32% เป็นเงินฝาก จากช่วง 10 ปีก่อนที่มีสัดส่วนเป็นเงินฝาก 70% และสินทรัพย์ลงทุน 30% โดยในปีนี้ตลาดทุนยังมีความผันผวน ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกช่วงปลายวัฏจักร จึงเป็นโอกาสดีที่จะแนะนำลูกค้าปรับพอร์ตการลงทุน (K-Alpha) ที่ให้ความสำคัญต่อการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง โดยการเติบโตของพอร์ต K-Alpha ถึง 12.5%
"ภาพรวมตลาดหุ้นในปีนี้ถือว่าดี ตลาดโลกเติบโต 15% บอนด์รัฐโต 5% หุ้นกู้ 10% น้ำมัน 30% แต่ตลาดหุ้นไทยโตแค่ 2% ซึ่งในช่วงปลายปีแนะนำให้ถือเงินสดเพิ่มเมื่อมีความเสี่ยงเพิ่มหรือรอการลงทุนเพิ่มจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มดีขึ้นหลัง Bottom แล้วในปีนี้ ส่วนแนวโน้มตลาดโลกในปีหน้าคาดว่าจะเติบโตเพียงหนึ่งหลักเท่านั้น นักลงทุนจึงต้องระมัดระวัง เนื่องจากตลาดโตไปมากแล้วจึงอาจมีการปรับฐานได้"
สำหรับปี 2563 ธนาคารยังสานต่อการให้บริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคลที่ครบถ้วนที่สุดในประเทศไทย โดยรวบรวม 5 กลยุทธ์ ได้แก่ กระจายความเสี่ยงและเพิ่มความคล่องตัวของพอร์ต รวมถึงป้องกันพอร์ตด้วยสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ และกลยุทธ์การลงทุนแบบ Hedged Fund ที่ใช้กลยุทธ์ Long และ Short หุ้นพร้อมๆ กัน โดยเน้นกลยุทธ์ Carry ในกลุ่ม High Yield ที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่า ส่วนการลงทุนในหุ้นยังต้องระมัดระวัง เนื่องจากยังมีความผันผวน ควรเลือกกลุ่มธุรกิจที่ยังมีการเติบโตของกำไรสุทธิที่ดี เช่น หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ เทคโนโลยี และพลังงาน ไปจนถึงหุ้นประเทศตลาดเกิดใหม่บางประเทศที่น่าสนใจ และสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมในสินทรัพย์ทางเลือกอย่างอสังหาริมทรัพย์ หุ้นนอกตลาด และโครงสร้างพื้นฐานที่อาจมีความผันผวนทางด้านราคาตลาดน้อยกว่าแต่เหมาะสำหรับก้อนเงินลงทุนระยะยาว 5 ปีขึ้นไปและเป็นส่วนน้อยของพอร์ตเท่านั้น
สำหรับธุรกิจสินเชื่อที่ดินเพื่อการลงทุน (สินเชื่อแลนด์โลน) ในปีหน้ามั่นใจว่า ยอดสินเชื่อจะเติบโตแตะที่ระดับ10,000 ล้านบาท จากยอดปัจจุบันเติบโตอยู่ที่ระดับ 6,000 ล้านบาท ธุรกิจดังกล่าวยังคงได้รับความสนใจเป็นอย่างดีจากลูกค้า ในการบริหารที่ดินซึ่งเป็นมรดกให้เกิดความคุ้มค่ามากขึ้น รวมถึงรับมือกับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะมีขึ้นในช่วงปี 2563 ส่วนลูกค้าที่นำมาให้ธนาคารช่วยดูแลให้รวมทั้งสิ้น 400 แปลง จำนวน 92 ครอบครัว คิดเป็นเงิน 80,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ลูกค้าที่ให้ความสนใจและยื่นขอสินเชื่อดังกล่าวประมาณ 12,000 ล้านบาท แต่ได้รับการอนุมัติเพียง 6,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการที่แนะนำ ทำให้ได้รับรางวัลด้านไพรเวตแบงก์ รวม 14 รางวัล จาก 9 สถาบันระดับสากลทั่วโลก เช่น Best Private Bank ในประเทศไทย จากหลายสถาบัน เช่นAsian Private Banker, Finance Asia และ The Asset รวมถึงการเป็น Best Private Bank ในภูมิภาค ASEAN จากสถาบัน The Digital Banker นอกจากนี้ ธนาคารฯ ยังได้รางวัล Outstanding RM Training and Development Program จาก Private Banker International Global Wealth Summit and Awards 2019