xs
xsm
sm
md
lg

“ศุลกากร” เผย รับคืนพัสดุสิ่งของส่วนตัวจาก ตปท. มูลค่าไม่เกิน 1,500 บาทไม่เข้าข่ายเสีย VAT 7%

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ศุลกากร” แจง คนไทยได้รับส่งคืนพัสดุสิ่งของที่นำติดตัวออกไปยังต่างประเทศทางไปรษณีย์ ไม่เข้าข่ายต้องเสียภาษี VAT 7% หากสิ่งของนั้นมีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท แต่ผู้เป็นเจ้าของต้องมีหลักฐานมายืนยันสิ่งของนั้นเป็นของๆ ที่ตนได้นำติดตัวออกไปและลืมทิ้งไว้ในต่างประเทศจริงๆ

สืบเนื่องจากโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของกระทรวงการคลังที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาแผนการปฏิรูปโครงสร้างภาษี โดยจะเสนอให้มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% สำหรับสินค้าที่มีการสั่งซื้อทางออนไลน์และจัดส่งทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศทุกชนิดราคา รวมถึงการยกเลิกเงื่อนไขยกเว้น VAT สำหรับสินค้าที่นำเข้ามาในไทยซึ่งมีมูลค่าเกินกว่า 1,500 บาท โดยให้กรมศุลกากรจะทำการตรวจสินค้าที่ส่งเข้ามาทั้ง 100% โดยไม่ใช้วิธีการสุ่มตรวจเช่นที่เคยดำเนินการมา รวมถึง กรณีเฟซบุ๊คแฟนเพจ อีเจี๊ยบ เลียบด่วน ได้โพสต์ข้อความระบุกรณีเพื่อนลืมที่ชาร์ตแบตไว้ที่โรงแรม และถูกส่งกลับมาทางไปรษณีย์ โดยที่ชาร์ดังกล่าวมีราคาเกิน 1,500 บาท จึงถูกเรียกเก็บ VAT 7% ด้วยนั้น

นายชัยยุทธ คำคูณ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวว่า ตามหลักการมูลค่าสิ่งของถูกส่งพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศเกินกว่า 1,500 บาทแล้ว จะต้องถูกเรียกเก็บ VAT 7% ทั้งหมด ซึ่งภาษีดังกล่าวจะเป็นภาษีของกรมสรรพากร ส่วนมูลค่าสินค้าที่มีราคาต่ำกว่า 1,500 บาทจะได้รับการยกเว้นภาษี ส่วนในกรณีที่ผู้เดินทางไปต่างประเทศได้นำสิ่งของติดตัวไปยังต่างประเทศ แต่ลืมนำสิ่งของนั้นกลับเข้าประเทศไทย และต้องแจ้งคำขอให้โรงแรมในต่างประเทศส่งกลับมายังประเทศไทยให้นั้น กรมศุลกากรจะไม่ถือว่าอยู่ในข่ายที่ต้องเสียภาษี

ทั้งนี้ ผู้เป็นเจ้าของสิ่งของที่ถูกส่งกลับจากต่างประเทศต้องมีหลักฐาน เช่น ภาพถ่าย เพื่อใช้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรว่าตนเองเป็นสิ่งของที่นำติดตัวไปต่างประเทศและลืมนำติดตัวกลับมาในไทยจริงๆ อีกทั้งยังต้องมีการพิจารณาถึงสภาพของสิ่งของนั้นด้วย เช่น หากของมีสภาพที่ได้ใช้งานจนเก่าแล้ว และไม่ใช่สินค้าราคาแพงที่ซื้อขายแบบมือ 2 ในต่างประเทศ ก็ไม่น่าที่จะต้องเสียภาษี และเจ้าหน้าที่ศุลกากรเองก็คงไม่ไปเรียกเก็บภาษีสินค้าดังกล่าวนั้นด้วย แต่อย่างไรก็ตาม โฆษกกรมศุลกากร ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่าในกรณีนี้ตนไม่แน่ใจว่าทำไมสายชาร์จฯ จึงมีราคาสูงถึง 1,500 บาท


กำลังโหลดความคิดเห็น