xs
xsm
sm
md
lg

แจ้งไว้กันเหนียว! ช่างภาพเผยแจ้ง “อุปกรณ์กล้อง” ต่อศุลกากรก่อนออกนอกประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เผยประสบการณ์บล็อกเกอร์และช่างภาพรายหนึ่ง เลือกที่จะแจ้งนำของมีค่าออกไปนอกราชอาณาจักร เพื่อกันเหนียว เวลากลับประเทศถูกพนักงานศุลกากรซักจะได้บอกได้ว่า ของนำมาจากเมืองไทย

เฟซบุ๊ก “สำนักป้ายยา” บล็อกเกอร์และช่างภาพรายหนึ่ง ได้โพสต์ประสบการณ์การนำของมีค่าที่ผู้โดยสารนำติดตัวออกไปนอกราชอาณาจักร ตามประกาศกรมศุลกากร ระบุว่า ใครจะขนกล้อง ขนเลนส์ มูลค่าสูงๆ ออกไปใช้งานที่ต่างประเทศ ถ้าอยากสบายใจก็แจ้งศุลกากรไว้กันเหนียวก็ดี เวลากลับมาจะได้ไม่มีปัญหา เจ้าสำนักก็เคยไปแจ้งมาแล้ว เพราะคราวก่อนขนเลนส์ออกไปมูลค่าเยอะอยู่ วิธีแจ้งก็ไม่ยาก โดยดาวน์โหลด “แบบแจ้งของมีค่าที่ผู้โดยสารนำติดตัวออกไปนอกราชอาณาจักร” ทางเว็บไซต์กรมศุลกากร ออกมา 2 ชุด เติมรายละเอียด ชื่อผู้โดยสาร เที่ยวบิน ยี่ห้อรุ่น กล้อง เลนส์ Serial Number ลงไปให้เรียบร้อย ปรินท์รูปไปด้วยได้จะยิ่งดี จากนั้นเมื่อถึงสนามบิน ก่อนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ให้ไปถามหาศุลกากร แผนกรับแจ้งก่อน ก็จะตรวจดูของ ดูยี่ห้อ รุ่น ว่าตรงกับในใบแจ้งหรือไม่ แล้วก็จะประทับตรารับแจ้ง ให้เราเก็บเอกสารใบแจ้งไว้ใบหนึ่ง พอกลับมาประเทศไทย ก็เดินเข้าช่องแดง ยื่นใบแจ้งนำของออก ให้ศุลกากรตรวจสอบดู ว่ารุ่น ยี่ห้อ และ Serial Number ถูกต้องตรงกับในใบแจ้ง เท่านี้ก็เรียบร้อย ทั้งหมดนี้ ใช้เวลาประมาณเที่ยวละ 5 - 10 นาที แนะนำให้ทำเรื่องแจ้ง เฉพาะคนที่อุปกรณ์เยอะๆ มากจริงๆ เท่านั้น ถ้าแจ้งหมดทุกคน เจ้าหน้าที่คงน่าจะรับมือไม่ไหวแน่ๆ



อย่างไรก็ตาม เมื่อมีชาวเฟซบุ๊กสอบถามว่า ต้องแจ้งหรือไม่ ของต้องมูลค่าเท่าไหร่ ถึงต้องแจ้ง ซึ่งการแจ้งสิ่งของติดตัวผู้โดยสารนี้ ใครจะแจ้ง หรือไม่แจ้งก็ได้ การไม่แจ้งก็ไม่ได้ผิดกฏหมายอะไร ประเด็นไม่ได้อยู่ที่มูลค่า หรือปริมาณ แต่สำคัญที่ “ที่มาของสินค้า” ถ้าขากลับเข้ามา เราโดนศุลกากรเรียกตรวจว่าเอากล้องมาจากไหนเยอะแยะ เอาไอโฟนมาจากไหน 3 - 4 เครื่อง แล้วเราสามารถแสดงหลักฐานให้เจ้าหน้าที่เชื่อได้ว่าอุปกรณ์เหล่านี้ เป็นอุปกรณ์ที่ซื้อมาจากประเทศไทย เช่น มีใบเสร็จ ใบรับประกัน หรือ ใบยืมของ ถ่ายรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์ หรือให้คนที่บ้านโทรสารเอกสารมาให้ได้ก็จบ ไม่มีปัญหา ไม่ต้องแจ้งก็ได้ แต่ถ้าเราซื้อกล้องมือสองมา ทำใบเสร็จหาย ไม่มีใบรับประกัน หรือยืมเพื่อนมา ไม่มีเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของ ก็สามารถแจ้งไว้ เพื่อให้มีเอกสารจากราชการไว้ยืนยัน ว่าสิ่งของเหล่านี้ เป็นของที่เราขนออกไปจากประเทศไทยจริงๆ ไม่ได้ซื้อมาจากต่างประเทศ เพื่อที่จะไม่ต้องโดนเรียกเก็บภาษีนำเข้า ส่วนเรื่องอัตราภาษี ของอุปกรณ์กล้อง พิกัดที่ขึ้นต้นด้วยเลข 8525 ถ้าโดนเรียกเก็บ ถ้าของมูลค่า 100 บาท ก็โดนภาษีขาเข้า 5% แล้วรวมกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อีก 7% ของราคา 100 บาท + 5 เปอร์เซ็นต์




กำลังโหลดความคิดเห็น