บล.โกลเบล็กมองหุ้นไทยผันผวนหลังจากปัจจัยลบต่างประเทศ และในประเทศกดดัน จับตาการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนกลางเดือนนี้ บวกเสถียรภาพการเมืองไทยเปราะบางจากพรรคร่วมรัฐบาลมีคะแนนเสียงเหลื่อมล้ำกับพรรคฝ่ายค้านไม่มาก จึงให้กรอบเคลื่อนไหวในกรอบ 1,540-1,570 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนเป้าหมายของกองทุน LTF ชู AOT-CPALL-PTT-ADVANC-BBL
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวนต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจัยต่างประเทศที่ยังคงกดดัน โดยเฉพาะการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ซึ่งต้องจับตาว่าในวันที่ 15 ธ.ค.นี้สหรัฐฯ จะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนรอบใหม่หรือไม่หลังจากจีนเปิดเผยว่าซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ มากขึ้น 13 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนระหว่างเดือน ก.ย.-พ.ย. 2562 และสื่อรายงานว่าสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะชะลอการเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นต่อสินค้าที่นำเข้าจากจีน แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันว่าพร้อมเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้น และมีปัจจัยลบที่เพิ่มใหม่จากสัปดาห์นี้สภาผู้แทนฯ สหรัฐฯ เตรียมลงมติถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ในข้อหาใช้อำนาจในทางมิชอบและขัดขวางสภาคองเกรสในการปฏิบัติหน้าที่
อีกทั้งปัจจัยในประเทศด้านสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความเปราะบางจากคะแนนเสียงของพรรคฝ่ายรัฐบาลมีคะแนนเสียงมากกว่าพรรคฝ่ายค้านไม่มากนัก และกรณีการปรับอัตราค่าจ้างมีมติปรับขึ้นค่าแรงปี 2563 ทั่วประเทศ 5-6 บาท เตรียมเสนอเข้าที่ประชุม ครม. หากได้รับอนุมัติจะมีผล 1 มกราคม 2563 กดดันผลประกอบการธุรกิจที่ใช้แรงงานในสัดส่วนสูง จึงคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 1,540-1,570 จุด
นอกจากนี้ ยังคงต้องจับตาผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ วันที่ 10-11 ธ.ค. การเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือน พ.ย. ในวันที่ 11 ธ.ค. ของสหรัฐฯ รวมทั้งการรายงานสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย (เช้าวันที่ 12 ธ.ค.) และวันเดียวกันทางอียูเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ต.ค. ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย สหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน พ.ย. ส่วนวันที่ 13 ธ.ค. จีนเปิดเผยการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเดือน พ.ย. และยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวนเดือน พ.ย. สหรัฐฯ เปิดเผยยอดค้าปลีกเดือน พ.ย. ราคานำเข้าและส่งออกเดือน พ.ย. และสต๊อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือน ต.ค. และวันที่ 15 ธ.ค. กำหนดวันที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนรอบใหม่มีผลบังคับใช้
อย่างไรก็ตาม นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 266,000 ตำแหน่ง ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ระดับ 187,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานลดลงเหลือ 3.5% ต่ำสุดในรอบ 50 ปี และกรณีที่กระทรวงการคลังอนุมัติเพิ่มทุน 1.5 หมื่นล้านบาทให้กับ EXIM เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลภาคส่งออกของไทยให้สามารถแข่งขันได้ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกผันผวน ประกอบกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่ได้เปิดเผยแผนงานปี 2563 เร่งเปิดประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่มูลค่ารวมราว 1.4 แสนล้านบาทนั้นถือว่ายังไม่สามารถทำให้ดัชนีฟื้นตัวได้ในระยะนี้
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้น mai เด่นในเดือนธันวาคม 2562 จากคาดการณ์งบ Q4 จะออกมาสดใส ชู TACC, TNP, JUBILE และหุ้น Defensive Stock ชู TTW, BH, BCPG, BEM รวมทั้งหุ้นที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายของกองทุน LTF ชู AOT, CPALL, PTT, ADVANC และ BBL