บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ ลั่นปี 63 รายได้โต 50% กำไรฟื้น หลังตุนงานในมือ 25,000 ล้านบาท แต่ยอมรับปีนี้ รายได้-กำไร ยังทรุด เหตุรับรู้งานก่อสร้างน้อย ขณะที่โบรกเกอร์ แนะนำเชิงลบ ให้หุ้นเต็มมูลค่า แถมยังให้ปีนี้และปีหน้าขาดทุนสุทธิมากขึ้น ขณะที่ราคาพื้นฐานใหม่ปรับลดเป็น 0.47 บาท
นายปสันน สวัสดิ์บุรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR เปิดเผยว่า ในปี 2563 คาดว่ารายได้ของบริษัทมีโอกาสเติบโตประมาณ 50% จากปี 2562 เนื่องจากได้รับรู้มูลค่างานในมือ หรือ Backlog ที่อยู่ระหว่างรอส่งมอบ จำนวน 25,000 ล้านบาท อีกทั้งมองว่าในปี 63 จะมีปัจจัยบวกจากการที่ภาครัฐเร่งนโยบายการเบิกจ่ายงบลงทุน
" ปีหน้าเราจะเข้าประมูลงานใหม่ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ซึ่งบริษัทจะเข้าไปประมูลโดยตรง และรับงานช่วงต่อ" นายปสันน กล่าว
ส่วนผลงานปีนี้ ยอมรับว่ารายได้จะทำได้ต่ำกว่างวดปี 2561 ที่มีรายได้ 10,444 ล้านบาท และคาดว่ายังคงขาดทุนสุทธิ หลังจากที่ในงวด 9 เดือนขาดทุนแล้ว จำนวน 242 ล้านบาท เนื่องจากมีการส่งมอบงานและรับงานใหม่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยล่าสุดรับงานใหม่เข้ามาเพียง 15,000 ล้านบาท เท่านั้นจากที่คาดว่าจะมีงานใหม่เข้ามาประมาณ 25,000 ล้านบาท
ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า NWR ขาดทุนสุทธิในไตรมาส 3/62 เป็น 39 ล้านบาท เทียบ y-o-y และ q-o-q ที่เป็น +313 และ -176 ล้านบาท ตามลำดับ ทั้งนี้หากไม่นับรายการพิเศษต่างๆ เป็นขาดทุน (Core Losses) ที่ 39 ล้านบาท เทียบ y-o-y และ q-o-q ที่เป็น +44 และ -215 ล้านบาท แม้ฟื้นตัวเทียบกับ q-o-q แต่โดยรวมก็ยังน่าผิดหวัง ต่างจากที่บริษัทให้แนวทางว่าปีนี้มีกำไรดี ส่วนในรอบ 9M62 เป็นขาดทุนสุทธิ -243 ล้านบาท เทียบ y-o-y +349 ล้านบาท และ Core losses เป็น -282 ล้านบาท เทียบ y-o-y มีกำไรหลักเป็น +28 ล้านบาท
บทวิเคราะห์ระบุว่า งบดุลในไตรมาส 3/62 ใช้เงินกู้มากพอควร อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนเป็น 1.1 เท่า มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นเป็น 1.37 บาท กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน 9M62 เป็น -76 ล้านบาท ลดลงเทียบ y-o-y ที่ +510 ล้านบาท ส่วนสาเหตุที่ยังลดลง y-o-y คือ รายได้ก่อสร้างลดลงมาก 21% อีกทั้งสัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบกับรายได้เพิ่มเป็น 8.7% ตามธุรกิจอสังหาฯที่มีกิจกรรมส่งเสริมการขายสูง ต้นทุนก่อสร้างสูง จากส่งมอบพื้นที่ล่าช้า ทับซ้อน แก้แบบ และอยู่ในช่วงการลงนามงานใหม่ จึงมีรายได้เข้ามาน้อย
ทั้งนี้คงแนะนำเชิงลบ เต็มมูลค่า ปรับให้ปีนี้และปีหน้าเป็นขาดทุนสุทธิมากขึ้นคือ -359 และ -370 ล้านบาท ตามลำดับ ราคาพื้นฐานใหม่ปรับลดเป็น 0.47 บาท ประเมินด้วย P/BV ปี 63 ที่ 0.4 เท่า ไตรมาสนี้มีขาดทุนสะสมแล้วเป็น 60 ล้านบาท