ผลประกอบการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ในใตรมาสที่ 3 แม้ตัวเลขขาดทุนเพิ่มขึ้นไม่มากนัก เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน แต่ถ้ารวมงวด 9 เดือนแรกปีนี้ ผลขาดทุนก้าวกระโดด จนฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์โบรกเกอร์สำนักต่างๆ ต้องลดประมาณการเป้าหมายราคาหุ้นลงตามๆ กัน
ไตรมาสที่ 3 THAI มีผลขาดทุนสุทธิ 4,680 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน 994 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 27% แต่ รวมงวด 9 เดือนแรกปีนี้ มีผลขาดทุนสุทธิ 10,782 ล้านบาท ขาดทุนสูงกว่าระยะเดียวกันปีก่อน 7,875 ล้านบาท หรือ ขาดทุนเพิ่มขึ้น 270%
ราคาหุ้น THAI ไม่ได้ตอบรับกับข่าวร้ายผลประกอบการที่ทรุดหนักมากนัก เนื่องจากก่อนหน้าราคาหุ้นปรับฐานลง รับความคาดหมายผลประกอบการล่วงหน้าแล้ว โดยนักลงทุนทยอยขายหุ้นออก ฉุดให้ราคาถอยหลังลงมาตั้งหลักแถว 7 บาทอยู่พักใหญ่
ปี 2534 การบินไทยแปรรูปเป็นบริษัทมหาชน และเป็นหุ้นรัฐวิสาหกิจแปรรูปที่นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้ออย่างล้นหลามทั่วประเทศ จนหุ้นไม่พอขาย จึงต้องใช้วิธีเฉลี่ยหุ้นจัดสรรให้ประชาชนที่สนใจคนละ 200 หุ้น ในราคาหุ้นละ 60 บาท
แต่เมื่อ หุ้นเข้ามาซื้อขายวันที่ 17 กรกฎาคม 2534 นักลงทุนที่จองซื้อไว้ต้องผิดหวัง เพราะราคาหุ้นต่ำกว่าจองหรือต่ำกว่า 60 บาท จนเวลาหลายปีผ่านไป หุ้น THAI จึงมีโอกาสปรับตัวขึ้นมายืนแถวระดับ 60 บาทในช่วงสั้น ก่อนจะทรุดลงต่อเนื่องถึงปัจจุบัน
สาเหตุที่ราคาหุ้นทรุด เกิดจากผลประกอบการที่ขาดทุน และแม้กระทรวงการคลังจะพยายามหาวิธีแก้ปัญหาขาดทุน ทั้งดึงมืออาชีพเข้าบริหาร ลดจำนวนพนักงาน และลดภาระค่าใช้จ่าย ทำให้ผลประกอบการปี 2559 กำไร 15.14 ล้านบาท แต่ปี 2560 กลับมาย่ำแย่เหมือนเดิม โดยขาดทุนสุทธิ 2,107.35 ล้านบาท ปี 2561 ขาดทุนสุทธิ 11,625.17 ล้านบาท
และงวด 9 เดือนแรกปีนี้ที่ขาดทุนไปแล้ว 10,782 ล้านบาท
ยอดขาดทุนสะสมหุ้น THAI ล่าสุดพุ่งขึ้นไป 18,470.41 ล้านบาท และมีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นต่อไปทะลุหลัก 20,000 ล้านบาท เพราะคาดว่าผลประกอบการจะขาดทุนต่อเนื่องถึงปีหน้า
ไม่มีโบรกเกอร์สำนักไหนแนะให้นักลงทุนซื้อหุ้นเข้ามาถัวเฉลี่ยต้นทุนเดิม ไม่แนะแม้จะให้ถือรอคอย มีแต่เสนอแนวทางแก้ปัญหา โดยยอมตัดใจขายขาดทุน เพราะถือต่อไปมองไม่เห็นอนาคต
ราคาหุ้น THAI ที่ยังเคลื่อนไหวเหนือ 7 บาท ถือเป็นราคาที่สูงมาก และเป็นราคาที่เปิดโอกาสให้ตัดขายขาดทุน เพราะถ้าเทียบกับราคาเป้าหมายใน 12 เดือนข้างหน้าของโบรกเกอร์ส่วนใหญ่แล้ว ตีราคาหุ้นไว้ต่ำมาก โดย โบรกเกอร์บางแห่งประเมินเป้าหมายราคาที่ 3 บาทเศษเท่านั้น
สายการบินทั่วโลกกำลังมีปัญหา เนื่องจากเผชิญภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ การแข่งขันสูง จนขาดทุนตามๆ กัน และ THAI เป็นอีกสายการบินที่อยู่ในอาการย่ำแย่ โดยแผนการฟื้นฟูผลประกอบการล้มเหลว เพราะขาดทุนหนักขึ้น ซึ่งหากรัฐบาลไม่ได้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 51% ของทุนจดทะเบียน ก็ไม่รู้จะประคับประคองการดำเนินงานต่อไปอย่างไร
หุ้น THAI เป็นหุ้นขนาดใหญ่ และมีผู้ถือหุ้นรายย่อยมากที่สุด รองจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนทั้งสิ้น 106,958 ราย ขณะที่ PTT มีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 118,931 ราย
ผู้ถือหุ้น THAI จำนวนกว่าแสนราย ทั้งหมดน่าจะขาดทุนจากหุ้นรัฐวิสาหกิจแปรรูปแห่งนี้ และผู้ถือหุ้นแต่ละคนไม่มีทางเลือกมากนัก โดยหากทำใจตัดขายขาดทุนตามคำแนะนำของโบรกเกอร์ไม่ได้ จะต้องทำใจถือหุ้น รอคอยการฟื้นตัวในระยาว
แต่ใครจะบอกได้ว่า เมื่อไหร่ผลประกอบการบริษัท การบินไทยจะฟื้น เพราะดูกันปีนี้และมองถึงปีหน้า แนวโน้มจะฟุบต่อเนื่อง
และ ไม่มีสัญญาณว่า หุ้น THAI จะโงหัวขึ้นมาง่ายๆ ในระยะเวลาอันใกล้