xs
xsm
sm
md
lg

“หุ้นใหม่” เน่ายกคอก / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สัปดาห์ที่ผ่านมา มีหุ้นใหม่เข้ามาซื้อขาย 4 บริษัท เริ่มประเดิมตัวแรกวันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน และเรียงหน้าตามเข้ามาทุกวัน แต่ปรากฏว่า หลังปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน ไม่มีหุ้นน้องใหม่ตัวใดยืนอยู่เหนือราคาจอง

นักลงทุนจำนวนหลายพันคนที่เสี่ยงดวง จองซื้อหุ้นทั้ง 4 ตัวไว้ หวังจะมีกำไรกันบ้าง แต่กลับเจ็บกันถ้วนหน้า กลายเป็นผู้สมทบทุนให้หุ้นใหม่ที่ตลาดหลักทรัพย์และตลาด mai ปล่อยเข้ามาในตลาดหุ้น

บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR ประเดิมเข้าซื้อขายเป็นตัวแรกของสัปดาห์ โดยเข้าซื้อขายวันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน หลังนำหุ้น จำนวน 1,437.45 ล้านหุ้น เสนอขายประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก ในราคาหุ้นละ 5.20 บาท และหลุดจองตั้งแต่วันแรก แต่ราคายังทรุดลงต่อ จนปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 3.84 บาท ต่ำกว่าจอง 1.36 บาท

นักลงทุนที่จองซื้อหุ้น SHR ต้องขาดทุนรวมกันจำนวน 1,954.93 ล้านบาท

หุ้นบริษัท แอ๊บ โซลูท คลีนเอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE เข้าซื้อขายเป็นตัวถัดมา เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน โดยนำหุ้น จำนวน 1,018 ล้านหุ้น เสนอขายประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก ในราคาหุ้นละ 4.40 บาท และแม้วันแรกยังยืนเหนือจองได้ แต่หลังจากนั้นอ่อนตัวลง จนปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 4.20 บาท ต่ำกว่าจอง 20 สตางค์

นักลงทุนที่จองหุ้น SHR เสียหายรวมกันจำนวน 203.60 ล้านบาท

หุ้นบริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC เข้ามาซื้อขายวันที่ 14 พฤศจิกายน โดยนำหุ้น จำนวน 167 ล้านหุ้น เสนอขายประชาชนทั่วไปในราคาหุ้นละ 2.86 บาท และต่ำกว่าจอง 30% ตั้งแต่วันแรก ก่อนจะปิดในวันศุกร์ที่ 1.88 บาท ต่ำกว่าจอง 98 สตางค์

นักลงทุนที่จองซื้อหุ้น BC ไว้ เสียหายรวมกัน 163.60 ล้านบาท

และหุ้น บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TPS เข้ามาซื้อขายปิดท้ายสัปดาห์ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน โดยนำหุ้น จำนวน 80 ล้านหุ้น เสนอขายประชาชนทั่วไปในราคาหุ้นละ 2.50 บาท แต่หลุดจองอีก โดยลงมาปิดในวันแรกที่ 2.24 บาท ต่ำกว่าจอง 26 สตางค์

นักลงทุนที่จองหุ้น TPS เสียหายรวมกัน 20.80 ล้านบาท

รวมหุ้นใหม่ที่เข้าซื้อขายเมื่อสัปดาห์ก่อนทั้ง 4 ตัว สร้างความเสียหายให้นักลงทุนเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 2,342.93 ล้านบาท

หุ้นใหม่ 4 ตัวรวดที่ถูกส่งเข้ามาในตลาดหุ้น ไม่มีตัวใดสร้างผลกำไรให้ผู้จองซื้อแม้แต่บริษัทเดียว

แต่การที่หุ้นใหม่ราคาหลุดจอง ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด เพราะนับจากต้นปี หุ้นใหม่ส่วนใหญ่ราคาต่ำกว่าจอง และไม่ได้เกิดจากเหตุผลภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวยตามที่ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนใหม่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

เพราะแม้ตลาดหุ้นไม่คึกคัก แต่ดัชนีหุ้นปีนี้ยังเคลื่อนไหวสูงกว่าจุดปิดเมื่อสิ้นปี 2561 มาตลอด โดยสิ้นปี 2561 ดัชนีหุ้นปิดที่ระดับ 1,563 จุด แต่ปีนี้ดัชนียังไม่เคยหลุดต่ำกว่า 1,563 จุด ดังนั้น จะอ้างภาวะตลาดเป็น "แพะรับบาป" ไม่ได้

สาเหตุที่หุ้นใหม่หลุดจอง เนื่องจากการตั้งราคาเสนอขายที่สูงเกินไป

ปีนี้มีหุ้นใหม่เข้ามาซื้อขายแล้วจำนวน 22 บริษัท และมีเพียง 4 บริษัทเท่านั้นที่ยืนเหนือจอง ส่วนอีก 18 บริษัทหรือกว่า 80% ของหุ้นใหม่ทั้งหมดในปีนี้ราคาต่ำกว่าจอง และน่าจะมีนักลงทุนจำนวนหลายหมื่นคน หลงตกเป็นเหยื่อสังเวยหุ้นใหม่

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะหน่วยงานที่พิจารณาอนุมัติการเสนอขายหุ้นสู่ประชาชนทั่วไปและอนุมัติรับบริษัทจดทะเบียนใหม่ ไม่ควรเพิกเฉยต่อปรากฏการณ์ นักลงทุนจองหุ้นแล้วเจ๊ง

ความเสียหายจากการลงทุนหุ้นใหม่ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะบางกรณี แต่เกิดขึ้นกับหุ้นใหม่ส่วนใหญ่ หรือกว่า 80% ของหุ้นที่ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์อนุมัติรับเข้ามา

วงเงินที่นักลงทุนสูญไปกับหุ้นใหม่ในปีนี้อาจจะร่วมหมื่นล้านบาท ซึ่ง ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบ

เพราะเป็นหน่วยงานที่ส่งหุ้นใหม่มาเชือดนักลงทุนในตลาดหุ้น






กำลังโหลดความคิดเห็น