“คลัง” ยันตั้งแต่ต้นปี 62 มีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นในกิจการโรงงานกว่า 4.3 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 36.3% สะท้อนภาพรวมการผลิตในอนาคตยังมีแนวโน้มขยายตัว ย้ำจะติดตามประเมินเศรษฐกิจใกล้ชิด และพร้อมพิจารณามาตรการดูแลเศรษฐกิจที่เหมาะสมต่อไป
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงการลงทุนใหม่จากการประกอบกิจการใหม่และการขยายกิจการของโรงงานเดิมว่า ในช่วง 1 ม.ค.-12 พ.ย.62 มีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นในกิจการโรงงาน 431,216 ล้านบาท สูงกว่าปีที่แล้ว 36.3% ซึ่งสะท้อนภาพรวมการผลิตในอนาคตยังมีแนวโน้มขยายตัว อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในช่วง 1 ม.ค.-12 พ.ย.62 จะมีกิจการโรงงานจำนวน 1,391 โรงงาน ที่ยื่นขอปิดกิจการ แต่การขอยื่นประกอบกิจการโรงงานใหม่จะมีถึง 2,889 โรงงาน หรือมากกว่าการขอปิดกิจการ 107% นอกจากนี้ โรงงานที่เปิดอยู่เดิมยังคงมีการขยายกิจการเพิ่มเติมอีก 928 โรงงาน โดยในส่วนของแรงงานถึงแม้ว่ามีการเลิกจ้างงานจากการปิดกิจการ จำนวน 35,533 คน แต่มีการจ้างงานจากการประกอบกิจการใหม่ 84,033 คน และมีการจ้างงานเพิ่มจากการขยายโรงงานอีกจำนวน 84,704 คน
ผู้อำนวยการ สศค. ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังได้มอบหมายให้หน่วยงานของกระทรวงการคลังติดตามสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดและเร่งดำเนินการขับเคลื่อนชุดมาตรการด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเร่งรัดการเบิกจ่ายการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจประมาณ 100,000 ล้านบาทภายในสิ้นปี 62 ทั้งนี้ เพื่อให้มาตรการต่างๆ ที่เริ่มในไตรมาส 3 สามารถส่งผลได้อย่างเต็มที่ในไตรมาส 4 โดยกระทรวงการคลังจะประเมินสถานการณ์และแนวโน้มของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะพิจารณามาตรการดูแลเศรษฐกิจที่เหมาะสมต่อไป