ผมเชื่ออย่างเต็มร้อยว่าการทำงานประจำกับการเทรดหุ้นเป็นสิ่งที่สามารถไปด้วยกันได้ และที่สำคัญสามารถเทรดได้อย่างปลอดภัยควบคู่กับการทำงานประจำได้อย่างไม่เสียสมาธิอีกด้วย เราต้องการเพียงแค่หลักการไม่กี่ข้อเท่านั้นเอง วันนี้ผมจึงอยากนำทริกเล็กๆ มาเล่าสู่กันฟังครับ
ข้อที่ 1 : ประเมินบรรยากาศภาพรวมของตลาดอยู่เป็นระยะ
บรรยากาศของตลาดเป็นปัจจัยหนึ่งที่เราควรให้ความสำคัญครับ ในภาวะตลาดกระทิงคงไม่ต้องกังวลอะไรมาก เพราะทุกองค์ประกอบมันเอื้อให้เราทำกำไรได้ง่ายอยู่แล้ว ช่วงที่น่ากลัวคือ ช่วงที่ภาวะกระทิงเริ่มหมดแรง และตลาดเริ่มกลับตัว ช่วงนี้หากใครรู้ตัวช้า หรือยังเพลิดเพลินกับตลาดกระทิงอยู่ล่ะก็ กำไรที่ได้มาอาจจะถูกเรียกคืนไปหมดเลยก็ได้ครับ
เนื่องจากผมเองไม่มีความรู้ด้านการวิเคราะห์พื้นฐานเศรษฐกิจ ผมจึงเลือกใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิก 2 ชนิดในการช่วยผมประเมินบรรยากาศของตลาด เครื่องมือทั้ง 2 ได้แก่ MACD และ Darvas Box
MACD เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สะท้อนถึงกำลังของเทรนด์ ในหลายๆ ครั้งที่ MACD เริ่มแสดงอาการว่าอ่อนแรง ผมจะเริ่มระวังตัวเพิ่มมากขึ้น และอาจจะพิจารณาลดขนาด Trading Position ครับ
ส่วน Davas Box เป็นเครื่องมือที่ใช้ง่ายในการรันเทรนด์ อีกทั้งยังช่วยสร้างจุดสังเกตให้เราอีกด้วยว่า พฤติกรรมการเคลื่อนตัวแบบใดที่เริ่มน่ากังวล โดยปกติแล้วถ้าหากดัชนี (หรือราคาหุ้นก็ดี) เริ่มหลุดออกจากกรอบที่ประเมินไว้ ผมจะเริ่มทยอยลดขนาด Trading Position ครับ
ข้อที่ 2 : มองหาว่าตลาดช่วงนี้เล่นหุ้นทรงไหน
ใครก็ตามที่เทรดมาอย่างต่อเนื่อง พักหลังมานี้น่าจะสังเกตเห็นได้ไม่ยากว่า หุ้นหลายตัวเริ่มมีการกลับตัว และพายามเบรกเส้น Down Trend Line แถมดูท่าว่าอยากไปต่อเสียด้วย ดังนั้น เมื่อเราเห็นแล้วว่าช่วงนี้ทรงแบบนี้กำลังฮิต ก็อย่ารอช้าครับ ขยันทำการบ้านมากขึ้นหน่อย เน้นมองหาหุ้นทรงแบบนี้เป็นหลัก จะช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรได้เยอะมากเลยทีเดียวครับ
ข้อที่ 3 : ดูนิสัยของหุ้นที่เราจะเล่นสักนิด
ถ้าลองสังเกตเราจะพบว่าหุ้นแต่ละตัวมีนิสัยอันเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง เช่น หุ้นบางตัวชอบลากยาวๆ แล้วทิ้งราคาให้ตกวูบในตอนท้าย บางตัวชอบทุบแล้วแช่ไว้ทั้งวัน พอตอนเย็นก็ยกกลับมา หรือหุ้นบางตัวหลังจากแท่งเขียวยาว มักจะตามมาด้วยการย่อ หรือทุบแรงๆ เป็นต้น
การที่เรารู้นิสัยของหุ้นที่เรามีในมือ ทำให้เราพอจะคาดคะเนล่วงหน้าได้ว่า ในอนาคตเราจะต้องพบเจอกับอุปสรรคอะไรบ้าง ควรวางแผนออกตรงไหน หรือเราสามารถหาข้อได้เปรียบไหนได้จากพฤติกรรมของมันได้บ้าง
เมื่อเรานำเอาพฤติกรรมของหุ้นเข้ามาเป็นหนึ่งในปัจจัยการทำแผนเทรดของเราด้วย แผนของเราจะมีความรัดกุมขึ้นครับ เช่น เราจะไม่เผลอตกใจขายหุ้นเมื่อราคาสะบัดราคาแรงๆ หรือเราจะไม่พลาดเอาตัวเองเข้าไปติดในช่วง sideway ของราคาหุ้น แต่เราจะมองหาลักษณะพฤติกรรมบางอย่างก่อนที่ราคาจะวิ่ง เพื่อที่จะได้จังหวะที่ดีที่สุดแทน เป็นต้นครับ
ทั้ง 3 ข้อข้างต้น คือ พื้นฐานของระบบเทรดที่ผมใช้แล้วพบว่า มันทำให้การเลือกหุ้น และวางแผนการเทรดง่ายขึ้นมาก เมื่อเราเตรียมตัวมาดี เราคาดการณ์มาแล้วล่วงหน้าว่าอาจจะเจอกับอะไรบ้าง เราก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องนั่งเฝ้าจอระหว่างที่ทำงาน งานประจำก็ไม่เสีย ที่สำคัญที่สุดเลยคือ สุขภาพจิตไม่เสียครับ สำหรับผมการที่เราสามารถทำงานได้อย่างสบายใจ ไปพร้อมๆ กันกับหุ้นในพอร์ตที่กำลังทำงานให้เราเช่นเดียวกัน คือปลายทางที่ลงตัวที่สุดสำหรับ Part Time Trader แบบผมแล้วล่ะครับ
หมอเต้ย กางโต๊ะเทรด
