คนร้ายย่องเข้าห้องพักขโมยโทรศัพท์มือถือและเงินสด 600 บาท ในหอพักรวมใจ ซอยซอยเรวดี 5 เมืองนนท์ ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ตรวจกล้องวงจรปิดรู้ตัวคนร้ายแล้ว กำลังตามจับดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 19 ก.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ มนต์ชัย สัตบุรุษ หลังจากได้โพสต์ภาพและข้อความว่า โจรกระจอก แอบเข้าห้อง คนในตึก พิกัด ซ.เรวดี จ.นนทบุรี แชร์ไปให้มันอยู่ไม่ได้ รอบแรกฉกเงินไปได้ 5 บาท รอบสองได้เงิน 600 บาท โทรศัพท์มือถือซัมซุง 1 เครื่อง ปล.ก่อนหน้านี้ เคยขโมยมอเตอร์ไซค์ แต่จับตัวได้เอารถคืนเจ้าของเลยไม่เอาเรื่อง #สันดาน....#ไม่เคยสำนึก #ไม่คิดกลับตัว ซึ่งผู้ใช้เฟซบุ๊กเป็นคนดูแลหอพักและได้พาลูกบ้าน คือ น.ส.สุรีพร ยิ้มน้อย อายุ 48 ปี พนักงานทำความสะอาด ผู้อาศัยห้องพักเลขที่ 12 และเป็นผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ที่ สภ.เมืองนนทบุรี พร้อมภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน เหตุเกิดวันที่ 12 และ15 ก.ค.61
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นร้านเสริมสวน ส่วนชั้นบนเป็นหอพักชื่อรวมใจ ตั้งอยู่เลขที่ 127 ปากซอยซอยเรวดี 5 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี ที่ชั้น 2 ห้องเลขที่ 12 ซึ่งเป็นห้องเกิดเหตุ โดยห้องพักดังกล่าวต้องใช้ห้องน้ำรวมด้านนอกห้องพัก พบว่า คนร้ายเป็นเพื่อนของผู้พักอาศัยในอาคาร และเข้ามาหาเพื่อนอยู่เป็นประจำ ทราบชื่อคือ นายธนภณ
ภาพจากกล้องวงจรปิด วันที่ 12 ก.ค.61 สามารถบันทึกภาพคนร้ายได้เมื่อเวลา 04.59 น.คนร้ายเป็นชาย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา สวมกางเกงขาสั้นสีม่วง กำลังเดินขึ้นมาบนชั้น 2 จากนั้นได้หยุดหน้าห้องผู้เสียหาย และเดินไปพยายามเปิดประตูห้องผู้เสียหายแต่ไม่สามารถเปิดได้ ต่อมาเวชา 05.00 น.หลังผู้เสียหายออกจากห้องไปอาบน้ำ พบว่า คนร้ายคนเดิมได้กลับมาที่ห้องผู้เสียหายอีกครั้งโดยระหว่างเดินออกมาได้มองเห็นกล้องวงจรปิด ต่อมาวันที่ 15 ก.ค.61 เวลา 05.23 น. ผู้เสียหายเดินออกจากห้องพักเพื่อไปอาบน้ำ เวลา 05.24 น. เห็นศีรษะคนร้ายใต้กล้องวงจรปิดและได้ผลักกล้องวงจรปิดเงยขึ้นด้านบนจนไม่สามารถจับภาพตนร้ายขณะเข้าไปก่อเหตุได้
จากการสอบถาม น.ส.สุรีพร ยิ้มน้อย ผู้เสียหายทราบว่า วันที่ 15 ก.ค.61 หลังจากตนอาบน้ำเสร็จได้กลับเข้ามาที่ห้องพักพบว่าห้องถูกรื้อค้น โทรศัพท์มือถือหายไปเหลือแต่เคทสีเหลืองวางอยู่ และเงินสดในกระเป๋ากายไป 600 บาท จึงได้โทรศัพท์หาคนดูแลหอพักให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้จึงพบว่าคนร้ายได้เข้าไปในห้องมาแล้ว เมื่อวันที่ 12 ก.ค.61 ได้เงินไป 5 บาท ซึ่งตนไม่ทราบว่าเงินหาย ส่วนวันที่ 15 ก.ค.61 คนร้ายได้ผลักกล้องขึ้นด้านบนและได้เงินไป ซึ่งเงิน 600 บาทสำหรับตนนั้นเป็นเงินจำนวนมาก เนื่องจากตนรับจ้างทำความสะอาด หลังเกิดเหตุตนได้ย้ายออกจากกอพักเพราะตนอยู่คนเดียวกลัวว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาอีกจะเป็นอันตราย อยากให้ตำรวจจับตัวคนร้ายให้ได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และสามารถระบุตัวคนร้ายได้แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างออกติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
