มาสเตอร์ แอด (MACO) ผนึกกำลัง วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) รุกตลาดโฆษณาสื่อกลางแจ้ง ตั้งเป้ารายได้ปี 256 เติบโตไม่น้อยกว่า 20-25% เล็งลงทุนในประเทศอื่นๆ ในรูปแบบของ Selling agent โดยอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลคาดได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ ทุ่ม 367 ล้านบาท ซื้อหุ้น บริษัททรานส์ แอด โซลูชั่น จำกัด ผ่านบริษัทลูก ต่อยอดธุรกิจและเพิ่มศักยภาพนอกกลุ่มประเทศ AEC
แหล่งข่าวจาก MACO และ VGI เปิดเผยว่า บริษัทประเมินภาพรวมธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านในปี 2561 ทั้งปี มองว่าจากสถานการณ์ตลาดในปัจจุบัน คาดว่าน่าจะไม่แตกต่างจากครึ่งปีแรกเท่าไหร่ นักแต่มีสัญญาณดีขึ้นหากพิจารณาดูจากเทรนการใช้งบสื่อโฆษณาที่ยังคงมีแนวโน้มโตขึ้นเรื่อยๆ สำหรับสื่อนอกบ้าน (OOH) ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน ซึ่งอยู่ที่ 9.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนหน้า โดยบริษัทวางเป้าหมายรายได้และกำไรในปีนี้ไว้ไม่น้อยกว่า 20-25% ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
ขณะที่ในส่วนของความคืบหน้าโครงการต่างๆ และแผนงานปี 61 นั้น บริษัทได้มีการปรับเปลี่ยนวางกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปี 2561 โดยทาง MACO ยังคงพัฒนาพื้นที่สื่อที่มีในมืออย่างต่อเนื่อง และเพิ่มจุดติดตั้งสื่อใหม่ๆ ในพื้นที่ที่มีศักยภาพ ทั้งป้ายภาพนิ่งและป้ายดิจิทัล โดยจะเน้นจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยวที่มีการเข้าถึงของกลุ่มนักท่องเที่ยวและประชาชนจำนวนมาก โดยบริษัทมีแผนการที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของป้ายโฆษณาแบบ Static 50 ป้ายให้เป็นรูปแบบดิจิทัล ซึ่งได้เสร็จสิ้นไปแล้วประมาณ 70% โดยคาดว่าจะเสร็จครบตามจำนวน 100% เป็นไปตามแผนภายในสิ้นปีนี้
ขณะเดียวกัน แผนการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ บริษัทยังคงมุ่มเน้นขยายตลาดอยู่อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ AEC ซึ่งล่าสุด ได้เข้าซื้อกิจการของ VGM โดยปัจจุบัน VGM ถือหุ้นอยู่ในบริษัท Titanium Compass (TCSB) ผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการทำสื่อโฆษณาในรถไฟฟ้าสายใหม่ในประเทศมาเลเซีย เป็นระยะเวลา 10 ปี และยังถือหุ้นอยู่ใน บริษัท Meru Utama Sdn. Bhd.ผู้ให้บริการสื่อโฆษณาในสนามบินทั้งสนามบินหลัก และสนามบินสำหรับสายการบินโลว์คอสต์ ในประเทศมาเลเซียที่มีผู้โดยสารมากกว่า 61 ล้านคนต่อปี และ VGM ยังถือหุ้นอยู่ในบริษัทผู้ดำเนินธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านที่มีความหลากหลายในประเภทอื่นอีกมายมาย เช่น สื่อโฆษณาบิลบอร์ดกลางแจ้ง สื่อโฆษณาในอาคารสำนักงาน สื่อโฆษณาในห้างสรรพสินค้า สื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ เป็นต้น เพื่อรองรับการใช้งบประมาณโฆษณาของสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งในและต่างประเทศ ทำให้บริษัทมีความได้เปรียบและเพิ่มโอกาสในด้านการลงทุน ที่คาดว่าจะได้รับผลตอบแทนในการลงทุนซื้อกิจการของ VGM เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ การเข้าไปลงทุนซื้อหุ้น Trands Ad จำนวนกว่า 367 ล้านบาท ผ่านบริษัทย่อย อาย ออน แอดส์ จำกัด (Eye On Ads) บริษัททรานส์ แอด โซลูชั่น จำกัด (Trands Ad) ผู้ให้บริการการออกแบบและติดตั้งระบบการแสดงสื่อผสม (Multimedia Display System) รวมถึงระบบควบคุมเนื้อหาและจัดการสื่อ ติดตั้งระบบเชื่อมต่อเพื่อสั่งการและเก็บขอมูลผ่านทาง Internet ตลอดจนออกแบบสร้าง application เพื่อแผนที่ในร่มและระบบส่งสัญญาณบลูทูธเพื่อการโฆษณา เป็นต้น โดยบริษัท Trands Ad มีวัตถุประสงค์นำเงินไปซื้อหุ้นในบริษัท Roctec โดยบริษัท Roctec Technology Limited (Roctec) ผู้ให้บริการด้านการออกแบบและวางระบบ รวมถึงติดตั้งและให้บริการบำรุงรักษาเครื่องมือ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานระบบ โดยเฉพาะด้านระบบควบคุมและเชื่อมต่อและระบบแสดงผลในหลายอุตสาหกรรม โดยบริษัท Roctec มีสัมปทานงานในฮ่องกง ซึ่งจะทำให้สามารถต่อยอดธุรกิจและเพิ่มศักยภาพในธุรกิจต่างประเทศให้แก่ MACO ในอนาคต โดยดีลการซื้อนี้จะเสร็จสมบูรณ์ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2561
อย่างไรก็ดี จากการที่เทรนเทคโนโลยีการเสพสื่อโฆษณาที่เปลี่ยนไป บริษัทได้มีการวางแผนการใช้สื่อโฆษณาในปัจจุบันนั้น เป็นรูปแบบเฉพาะเจาะจงกลุ่มมากขึ้น ซึ่งแม้พฤติการเสพสื่อของผู้บริโภคบางกลุ่มจะเปลี่ยนไป แต่ก็มาพร้อมๆ กับการใช้เวลาอยู่นอกบ้านมากขึ้น เพราะฉะนั้นสื่อโฆษณานอกบ้านก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่จะใช้เป็นช่องทางการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายของลูกค้าอยู่ดี แต่หากพิจารณาตามเทรนด์การใช้งบสื่อโฆษณาก็ยังจะเห็นว่าสื่อนอกบ้านโดยเฉพาะ ประเภทบิลบอร์ด ดิจิทัลบิลบอร์ด ก็ยังคงมีภาวะที่โตอยู่เรื่อยๆ ทั้งนี้ในปัจจุบัน บริษัทยังได้มีการใช้ดาต้าที่มีจากพันธมิตรอย่างแรบบิท มาใช้เพื่อการวางแผนใช้สื่อโฆษณาให้เกิดประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นได้อีกด้วย
ทั้งนี้ในส่วนของการรุกธุรกิจเข้าไปในตลาดเพื่อนบ้านปัจจุบันที่มีอยู่แล้วคือ มาเลเซีย และประเทศต่อไปคาดว่าจะเป็นอินโดนีเซีย (จากสัมปทานที่พ่วงจากการซื้อ VGM) สำหรับในประเทศอื่นๆ ยังคงเป็นรูปแบบของ Selling agent และอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล
อย่างไรก็ดี แนวโน้มสัดส่วนรายได้ กำไร และมูลค่ากิจการ ในอนาคตจากเป้าหมายการดำเนินงานในระยะ 5 ปี (ปี 2559-2563) บริษัทมองว่าทั้งเป้าหมายรายได้และกำไรจะเติบโตขึ้นมาแล้วเท่าตัว จาก 2 กลยุทธ์ ไม่ว่าจะเป็นด้าน Organic Growth หรือ Inorganic Growth
ขณะที่ในส่วนของนโยบายที่จะเข้าซื้อหรือควบรวมกิจการ (M&A) ในปีส่วนที่เหลือของปีนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดว่าต้องพิจารณาดูความเหมาะสมของตลาด และทิศทางของเศรษฐกิจและภาพรวมของอัตราแลกเปลี่ยนก่อน เนื่องจากบริษัทเพิ่งปิดดีลการซื้อกิจการไป 2 แห่งแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นในปีถัดไป โดยต้องรอดูความชัดเจนของมูลค่าดีลและความเสี่ยง ตลอดจนถึงผลตอบแทนที่จะเข้าไปลงทุนด้วย
ในส่วนของการระดมทุนในรูปแบบ ICO หรือ Initial Coin Offering นั้น บริษัทยอมรับว่ามีความน่าสนใจ เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมของนักลงทุน และสตาร์ทอัปทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่เนื่องจากว่าทางสถานะการเงินยังมีสภาพคล่องสูง และยังมีในส่วนของเครดิตสถาบันการเงินที่จะกู้ได้ จึงยังไม่มีความจำเป็นที่จะระดมทุนออก ICO แต่ก็ไม่ได้มีการปิดโอกาสที่จะลงทุน ICO ในอนาคต โดยอยู่ในช่วงของการศึกษาข้อมูล ซึ่งยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน
