"ผลิตภัณฑ์ตราเพชร’ คาดผลการดำเนินงาน Q2/61 ยังเติบโตต่อเนื่อง หนุนยอดขายครึ่งปีแรกเติบโตตามแผน หลังคุมเข้มบริหารจัดการด้าน Product Mix และช่องทางจำหน่าย รับมือต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวขึ้น มั่นใจตลาดวัสดุก่อสร้างครึ่งปีหลังแนวโน้มเติบโตดี หลังการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐเดินหน้าตามแผน หนุนภาคเอกชนลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯ และบรรยากาศการซื้อสินค้าของผู้บริโภค ส่งผลดีต่อความต้องการใช้สินค้าวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRTเปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานในไตรมาส 2/61 ที่ผ่านมา เชื่อว่าจะยังคงรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ จะขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ต้องการผลักดันยอดขายเติบโต 5% และรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 25-27% แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา สัญญาณต้นทุนวัตถุดิบบางรายการมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แต่บริษัทฯ ยังสามารถบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ด้วยจุดแข็งในการดำเนินธุรกิจของ DRT หรือ ‘ตราเพชร’ ที่มีผลิตภัณฑ์และช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย รวมถึงการบริหารพอร์ตสินค้า (Product Mix) ในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งสินค้าในกลุ่มระบบหลังคา (Roofing Solution) ที่มีครบครัน ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์หลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ หลังคาคอนกรีต หลังคาเหล็กเคลือบหินภูเขาไฟ โครงและอุปกรณ์ประกอบหลังคา ตลอดจนสินค้าในกลุ่มฝ้า ผนังและพื้น อาทิ ผลิตภัณฑ์กลุ่มไม้สังเคราะห์ อิฐมวลเบา ไดมอนด์บอร์ด ฯลฯ บริษัทฯ จึงสามารถรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี รวมถึงมีการบริหารช่องทางการจัดจำหน่ายที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าโครงการ และร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ ซึ่งเป็นช่องทางจำหน่ายที่มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่น
“เราเชื่อว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกยังเติบโตได้ต่อเนื่อง ซึ่งค่อนข้างน่าพอใจเมื่อเทียบกับภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างที่เติบโตเล็กน้อย เนื่องจากเรามุ่งเน้นการบริหารจัดการพอร์ตสินค้า และช่องทางการจัดจำหน่ายของเราที่มีความหลากหลาย ทำให้เราสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อผลักดันเป้าหมายยอดขายเติบโตได้ตามแผนงาน” นายสาธิต กล่าว
นายสาธิต กล่าวว่า ส่วนภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างในครึ่งปีหลัง DRT มองว่าจะมีการเติบโตที่ดีขึ้น หลังจากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐเดินหน้าได้ตามแผน ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนของภาคเอกชน และการตัดสินใจลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ ตามแนวโครงการรถไฟฟ้า รวมถึงบรรยากาศการเลือกซื้อสินค้าจะมีความคึกคักมากขึ้น จึงเป็นโอกาสดีของ DRT ในการรุกทำตลาดเพื่อผลักดันยอดขายสินค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มระบบหลังคา ซึ่งเป็นพอร์ตรายได้หลัก ที่มีความพร้อมในด้านการผลิต และการขยายตลาดเพิ่มเติมไปยังกลุ่มลูกค้าโครงการ รวมถึงสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์ และอิฐมวลเบา ที่คาดว่าจะมีความต้องการใช้สินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่ออัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยโดยรวมของ DRT ในปีนี้ที่จะอยู่ในระดับ 80%
“ในครึ่งปีหลัง เราจะมุ่งทำตลาดกลุ่มสินค้าระบบหลังคามากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่เรามีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว เนื่องจากมีความพร้อมทั้งในด้านการผลิต รวมถึงความเชี่ยวชาญของทีมช่างที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนผลักดันการเติบโต จึงเชื่อมั่นว่า ด้วยแผนการดำเนินงานของเรา จะส่งผลให้ทำยอดขายเติบโต 5% ในปีนี้ได้ตามเป้าหมาย” นายสาธิต กล่าว