ดู เดย์ ดรีม หรือ DDD ปรับโครงสร้างการส่งออกเพื่อทำตลาด mainstream online และ offline เร่งเพิ่มผู้กระจายสินค้ารุกจีน ด้านตลาดในประเทศการกระจายสินค้าเข้าโชวห่วยล่าช้า เร่งแก้ปัญหา แผนขยายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดตลาดต่างประเทศ
นายปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD เปิดเผยว่า การดำเนินงานปีนี้แม้ว่าจะมีความท้าทายเพิ่มขึ้น แต่บริษัทพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาเป้าการเติบโตตามเดิม สาเหตุหลักมาจากปัจจัยการขายในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน เนื่องจากบริษัทได้รับ อย.จีนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และบริษัทต้องปรับแพกเกจสินค้าให้ตรงตามข้อบังคับของประเทศจีน ส่งผลให้บริษัทเสียเวลาขายสินค้าเป็นเวลา 2 เดือน นอกจากนี้ ผู้กระจายสินค้าที่กระจายสินค้าในประเทศจีนในปัจจุบันไม่มีความถนัดในด้านการกระจายสินค้าให้แก่ผู้ค้าส่ง (Wholesale) ทำให้บริษัทไม่สามารถใช้ประโยชน์จาก อย.จีนได้อย่างเต็มที่ และอีกหนึ่งสาเหตุคือ การเปลี่ยนถ่ายจากระบบการขายร้านค้าแบบดั้งเดิมทำได้ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้การร่วมมือกับซิโน-แปซิฟิก ผู้กระจายสินค้าในประเทศของบริษัท ยังไม่สามารถเข้าถึงภูมิภาคที่สำคัญ เช่น ภาคอีสาน ชัดเจนเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกยังมีสัญญาณที่ดีจากภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นผลตอบรับที่ดีจากผลิตภัณฑ์รูปแบบซอง (Sachet) ในช่องทางร้านสะดวกซื้อต่างๆ ประกอบกับยอดขายที่โตต่อเนื่อง
จากการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านร้านค้า King Power ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ SNAILWHITE ยังเป็นที่นิยมของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก เห็นได้จาก Market Share ของบริษัทที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจุบันอยู่ลำดับที่ 6 จากทุกช่องทางการจัดจำหน่ายในประเทศไทย ประกอบกับบริษัทเพิ่งได้รับ อย.จีนเพิ่มในสินค้า SNAILWHITE SYN-AKE MIST ทำให้มีโอกาสขยายตลาดเพิ่มเติม นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงครึ่งปีหลัง
“ทั้งนี้ บริษัทรับทราบและตระหนักถึงความท้าทายต่างๆ ในการเติบโตของบริษัทฯ และได้มีแผนในการรับมือแก้ปัญหาต่างๆ ไว้แล้ว โดยการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีการให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อสร้างความมั่นใจในสินค้าและการทำการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยว เพื่อคว้าโอกาสจากจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบซอง (Sachet) เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและช่วยในการบุกตลาดร้านค้าแบบดั้งเดิม การเพิ่มผู้กระจายสินค้าที่มีความถนัดในการขายแบบค้าส่ง (Wholesale) ในประเทศจีนเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่การจำหน่ายสินค้ามากขึ้น และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาการส่งออกสินค้าไปประเทศจีน โดยการเปิดตลาดในประเทศใหม่ๆ ในเอเชียเร็วๆ นี้” นายปิยวัชรกล่าว