"คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์" #KINGPOWERTHAIPOWER #พลังคนไทย โครงการเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย พิสูจน์ดึงพลัง 4 ด้านหลักของโครงการ ทำให้คนทั้งโลกเริ่มจับตามองประเทศไทยในมุมใหม่ ถ้าตั้งใจทำอะไรจริงจังก็น่าจะประสบความสำเร็จได้
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. การลุกขึ้นมาเดินหน้าโครงการเพื่อสังคม “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” ของ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ บริษัทของคนไทยที่เชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย กลายเป็นที่จับตามองของสังคมขึ้นมาทันที เพราะหลังจากเปิดตัวโครงการไปได้เพียง 1 ปี ผลลัพธ์ของการดำเนินโครงการเพื่อส่งเสริมสนับสนุนศักยภาพของคนไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลก คิง เพาเวอร์ ได้พิสูจน์ให้สังคมได้ประจักษ์แล้วว่า “พลังคนไทยที่เคยถูกมองข้ามไปนั้นมีอยู่จริง” ผ่าน 4 ด้านหลักของโครงการ
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ อธิบายโครงการว่า โครงการคิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ เกิดขึ้นจาก กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทของคนไทยที่เชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย โดยจุดประกายขึ้นหลังจากนำผลงานของสโมสรเลสเตอร์ขยับขึ้นจากแชมป์เปียนชิปขึ้นสู่ชั้นพรีเมียร์ลีก และก้าวสู่แชมป์ยูฟ่าแชมป์เปียนลีก ได้สร้างปรากฏการณ์ในวงการกีฬา ทำให้คนทั้งโลกเริ่มจับตามองประเทศไทยในมุมใหม่
“สิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นปรากฏการณ์ให้คนทั้งโลกเห็นว่าทีมเล็ก ๆ อย่างเลสเตอร์ เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ เพราะฉะนั้นคนที่ไม่มีความสามารถหรือกำลังท้อแท้ ถ้าตั้งใจทำอะไรจริงจังก็น่าจะประสบความสำเร็จได้ ตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราเห็นว่าคนไทยก็ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้คนทั้งโลกเห็นได้เหมือนกัน” นายอัยยวัฒน์ กล่าว
ฉะนั้นโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” จึงเกิดขึ้นผ่าน 4 ด้านหลักของโครงการได้แก่ 1. SPORT POWER ปั้นนักกีฬาไทยสู่ลีกยุโรป 2.MUSIC POWER หนุนดนตรีไทยสู่โชว์ระดับนานาชาติ 3.COMMUNITY POWER บอกให้โลกรู้ว่าของไทยนี้ดี 4.EDUCATION & HEALTH POWER คุณภาพชีวิตที่ดีต้องมาก่อน รายละเอียดโครงการคลิก >> King Power Thai Power พลังคนไทย
SPORT POWER ปั้นนักกีฬาไทยสู่ลีกยุโรป
สิ่งที่คิง เพาเวอร์ทำไม่ใช่เพียงนำจัดโครงการล้านลูกล้านพลังสร้างฝันเด็กไทย มอบลูกฟุตบอล 1 ล้านให้กับเด็กไทยทั่วประเทศ หรือโครงการ 100 สนามพลังเยาวชนไทย สร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียม จำนวน 100 สนามทั่่วประเทศภายใน 5 ปี เพื่อหวังให้เยาวชนมีพื้นที่ออกกำลังกาย ห่างไกลจากยาเสพติด แต่สิ่งที่คิงเพาเวอร์มองไปไกลกว่านั้น คือ โอกาสที่จะมอบให้กับเด็ก ๆ และสานฝันให้เยาวชนทั่วประเทศที่รักกีฬาแต่ยังขาดโอกาสได้ทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง
ที่ผ่านมา คิง เพาเวอร์ ได้ขยายผลโครงการไปสู่กิจกรรมที่เสริมสร้างพัฒนาการด้านกีฬาฟุตบอลให้กับเยาวชนไทยอย่างครบวงจร อาทิ “โครงการ FOX HUNT ตามล่าจิ้งจอกสายพันธุ์สยาม” โดยมอบทุนการศึกษาและโอกาสสำคัญในชีวิตที่เงินไม่สามารถซื้อได้ ด้วยการไปฝึกทักษะกีฬาฟุตบอลที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ และสโมสร OH Leuven ของประเทศเบลเยียม ซึ่งคิง เพาเวอร์เป็นเจ้าของ เพื่อต่อยอดอนาคตของนักเตะเยาวชนไทยได้มีช่องทางเข้าไปเล่นในลีกฟุตบอลระดับยุโรป
“โดยได้เปิดโอกาสให้เด็กไทยมาแล้วในปีนี้เป็นรุ่นที่ 3 รุ่น สำหรับรุ่นแรกประสบความสำเร็จ กลับมา 12 คนไปเล่นในไทยลีก อีก 4 คนไปเล่นที่ OH Leuven ซึ่งแสดงให้เห็นศักยภาพของคนไทย พลังคนไทยมีจริง
และเด็กหรือเยาวชนไทยได้มีโอกาสไปเล่นในเวทีระดับโลก และกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทของคนไทยที่เชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย หวังว่าวันหนึ่งจะมีคนไทยเข้าไปเล่นฟุตบอลได้ในลีกยุโรป”
MUSIC POWER หนุนดนตรีไทยสู่โชว์ระดับนานาชาติ
ที่ผ่านมา คนไทยเราคุ้นเคยกับ โรงละครอักษรา ในฐานะโรงละครไทยร่วมสมัยที่มีเทคนิคการแสดงแสง สี เสียงได้มาตรฐานเทียบเคียงกับโรงละครชั้นนำระดับโลกเป็นอย่างดี แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าโรงละครแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อสนับสนุนศิลปะไทยและดนตรีไทยอันทรงคุณค่าให้เคียงคู่สังคมไทยไปตราบนานเท่านาน และเพื่อไม่ให้ศิลปะไทย อย่างหุุ่นละครเล็กและดนตรีไทยกลายเป็นเพียงความงดงามทางวัฒนธรรมที่ถูกมองข้ามไป และเพื่อให้ศักยภาพด้านดนตรีของคนไทยที่ถูกซ่อนไว้ได้เป็นที่ประจักษ์ คิง เพาเวอร์ได้จัดโครงการแข่งขันวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติแห่งประเทศไทยขึ้น เพื่อให้เวทีแห่งนี้จุดประกายเสียงดนตรีให้ดังก้องกังวาลอีกครั้ง ให้โลกได้รู้พลังด้านดนตรีของคนไทยก็พร้อมอวดโฉมในระดับสากล
COMMUNITY POWER บอกให้โลกรู้ว่าของไทยนี้ดี
นับตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้บริการ คิง เพาเวอร์ เป็นอีกเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้สินค้าไทย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหัตถกรรม อาหาร ขนม และ ของที่ระลึกได้เฉิดฉายในสายตาคนต่างชาติ ช่วยสร้างงานสร้างอาชีพให้หลายชุมชนทั่วประเทศ ตลอดจนคนพิการ เพราะคิง เพาเวอร์เข้าใจดีว่า สิ่งที่ชาวบ้าน ตลอดจนผู้พิการต้องการไม่ใช่ความสงสาร แต่ต้องการใช้ความสามารถและศักยภาพที่ตัวเองมีเติบโตไปพร้อมกับสังคม ยกตัวอย่าง ผลงาน “แก้วเป่า” สินค้า OTOP ที่ขายดีที่สุดในหมวดสินค้าของที่ระลึกจากคิง เพาเวอร์ ผู้อยู่เบื้องหลังผลงานชิ้นเอกนี้ คือ ภพต์ เทภาสิต ประธานสหกรณ์บริการผลิตภัณฑ์คนพิการไทย ชายหนุ่มผู้ไม่ยอมแพ้ให้โชคชะตาหลังจากคิง เพาเวอร์ เข้าไปช่วยเพิ่มให้ความรู้ แนะนำในเชิงธุรกิจทำให้อาชีพเป่าแก้วที่เคยทำรายได้น้อยนิดหาเช้าไม่พอกินค่ำกลายเป็นอาชีพเงินล้าน
อีกหนึ่งตัวอย่างความสำเร็จของการพาสินค้าชุมชนไปอวดสายตาชาวโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ คือ คอลเลกชั่น INDIGO (อินดิโก้) สำหรับเป็นของที่ระลึกสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งจะนำไปวางจำหน่าย ณ เดอะ ซิตี้ แฟนสโตร์ แอท คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ผลงานแห่งความภาคภูมิใจนี้คิง เพาเวอร์ ทำหน้าที่เป็นคู่คิดและคู่ค้าร่วมกับชุมชนบ้านนาขาม จ.สกลนคร โดยยังคงชูจุดแข็งและภูมิปัญญาของชาวบ้านไว้ และต่อยอดสินค้าให้ตอบโจทย์ตลาดต่างประเทศ และเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้า
EDUCATION & HEALTH POWER คุณภาพชีวิตที่ดีต้องมาก่อน
คิง เพาเวอร์ฉีกกรอบการช่วยเหลือด้านสาธารณสุขแบบเดิม ๆ ด้วยการสร้างคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน ผ่านโครงการ “พลังคนไทย สุขาสุขใจ” ออกแบบสุขาสุขใจในรูปแบบสากล สำหรับชาย หญิง และผู้พิการ เพื่อให้เป็นห้องน้ำของทุกคน ที่ไม่ใช่แค่สะอาด แต่ต้องสะดวก สบาย ปลอดภัย พร้อมดำเนินการจัดสร้างให้แล้วเสร็จเพื่อไปติดตั้งยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวไทยให้กับชาวไทยและต่างชาติครบทุกมิติ
ในส่วนของการศึกษา คิง เพาเวอร์ ได้ร่วมสร้างอนาคตเด็กไทยผ่านมูลนิธิคิง เพาเวอร์ มายาวนานถึง 13 ปี เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ทุ่มเทกับการเรียนอย่างเต็มที่ คิง เพาเวอร์ไม่เพียงสนับสนุนอุปกรณ์การเรียน สื่อการเรียนการสอน ช่วยซ่อมแซมอาคารเรียนและสร้างห้องสมุด สร้างรากฐานอนาคตที่ดีให้คนไทยมีโอกาสไปหาความรู้ในต่างประเทศเพื่อกลับมาช่วยพัฒนาประเทศ ด้วยการร่วมกับมหาวิทยาลัย เลสเตอร์ มอบทุนการศึกษาระดับปริญญาโทให้กับคนไทย
“ผมว่าคำว่า Thai power มันชัดเจน พลังคนไทยถ้าเราพลังคนไทยมารวมกัน แล้วก็ทำในสิ่งที่ดีต่อสังคม ช่วยกันพัฒนาประเทศ ผมว่าสิ่งที่ดีและสิ่งที่ยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย” จากคำกล่าว ของอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ บริษัทของคนไทยที่เชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย” นายอัยยวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้สามารถติดตามรายละเอียดโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” ได้จากแฟนเพจเฟซบุ๊ก www.facebook.com/kingpowerthaipowerพลังคนไทย
รายงานพิเศษ