รอยเตอร์ - นาวาอากาศเอกหญิง เจสสิกา เตท์ จากทีมสนับสนุนช่วยเหลือของกองทัพอากาศสหรัฐฯ เปิดเผยว่าคณะทำงานต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ตลอดปฏิบัติการค้นหา 13 สมาชิกทีมหมูป่า แต่เชื่อว่าความพยายามนี้ได้นำพาคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน พร้อมรับยังเหลืองานสาหัสรออยู่เบื้องหน้า นั่นคือการนำพาทั้งหมดกลับออกมาจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน
“เมื่อคุณมองมัน คุณจะเห็นว่ามีความท้าทายมากมาย มีปัจจัยต่างๆ นานา มีการดำเนินการที่หลากหลาย” เธอบอกกับรอยเตอร์ “แต่สิ่งที่ฉันเห็นคือ ฉันเห็นคนไทยร่วมแรงร่วมใจกัน” และความท้าทายต่อจากนี้คือการนำเอาทางกลุ่มออกจากถ้ำ
ความเห็นของ นาวาอากาศเอกหญิง เจสสิกา มีขึ้นหลังจากนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลงในช่วงค่ำวันจันทร์ (2 ก.ค.) ว่าทีมช่วยเหลือพบเด็กชาย 12 คน และผู้ช่วยโค้ชทีมฟุตบอลหมูป่ายังมีชีวิตอยู่ภายในถ้ำ หลังจากสูญหายไปนาน 9 วัน
เด็กชายอายุระหว่าง 11 ถึง 16 ปี พร้อมกับผู้ช่วยโค้ชวัย 25 ปี สูญหายไปหลังเสร็จสิ้นการซ้อมฟุตบอลเมื่อวั้นที่ 23 มิถุนายน ระหว่างออกไปเที่ยวสำรวจถ้ำหลวงในวนอุทยานแห่งหนึ่งใกล้กับชายแดนพม่า
ปฏิบัติช่วยเหลือระดับนานาชาติครั้งใหญ่ถูกเดินหน้ามาตั้งแต่นั้น ด้วยทีมช่วยเหลือต้องต่อสู้น้ำโคลนระดับสูงในความพยายามไปให้ถึงจุดที่ทางเด็กๆ อยู่ภายในถ้ำที่มีความยาวประมาณ 10 กิโลเมตร จนกระทั่งมีคำแถลงข่าวดีในช่วงค่ำวันจันทร์ (2 ก.ค.)
รอยเตอร์รายงานว่าพวกญาติๆของเด็ก ซึ่งพักอยู่ในที่พักชั่วคราวใกล้กับถ้ำ ต่างพากันส่งเสียงเฮ ฉีกยิ้มและรับโทรศัพท์แสดงความยินดีกันพัลวัน หลังได้รับข่าวดี ในขณะทีมกู้ภัยจับมือแสดงความยินดีกันและกัน ท่ามกลางเสียงไชโย
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทางกลุ่มได้รับบาดเจ็บหรือจำเป็นต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์หรือไม่ แต่พวกเขาจะได้รับเจลพลังงานบำรุงร่างกาย ในระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่ทำงานหาทางพาตัวพวกเขาออกมาอย่างปลอดภัย
“นาวีซีลแจ้งมาว่าพวกเขาถึงหาดพัทยาแล้ว แต่มันถูกน้ำท่วม ดังนั้นพวกเขาจึงไปต่ออีก 400 เมตรและก็พบทั้ง 13 คนอยู่อย่างปลอดภัย” รอยเตอร์อ้างคำแถลงของนายณรงค์ศักดิ์
รายงานของรอยเตอร์ระบุว่า ทีมกู้ภัยหารือกันว่าจะรอจนระดับน้ำลดลงเพื่อพาตัวเด็กออกมา แต่ก็เผื่อทางเลือกอื่นๆ ในนั้นรวมถึงสอนให้กลุ่มเด็กๆใช้อุปกรณ์ดำน้ำดำออกจากอุโมงค์ที่ถูกน้ำท่วม
รอยเตอร์ระบุว่าพบเห็นทีมแพทย์กำลังเตรียมการชุดปฐมพยาบาล หลังข่าวการพบตัวเด็กๆ ได้รับการยืนยัน
นายณรงค์ศักดิ์ เผยว่าทีมแพทย์ถูกส่งเข้าไปภายในถ้ำและต้องใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงเพื่อประเมินสุขภาพและความแข็งแรงของเด็ก ก่อนจะสรุปถึงยุทธวิธีพาตัวเด็กออกมา