ทหารกองทัพ ภาค 3 เร่งเดินสายไฟไปยังระยะ 1,500 ม.ที่โถงที่ 3 เตรียมติดตั้งระบบสูบน้ำในระยะ 3,000 เมตร และโยงเชือก ขนขวดอากาศ เพื่อเตรียมการเคลื่อนย้าย ทีมหมูป่าฯ">
จากกรณีเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ทหาร ตำรวจ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.) หรือหน่วยซีล กู้ภัย และอื่นๆ ที่ร่วมภารกิจปฏิบัติการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าและผู้ฝึกสอน รวม 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง เขตวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย อย่างแข็งขันตลอด 24 ชั่วโมง ขณะนี้เป็นเวลา 10 วัน นับตั้งแต่เริ่มภารกิจตามหา 13 ชีวิตทีมหมูป่า ท่ามกลางความหวังของเจ้าหน้าที่ ญาติของทั้ง 13 ชีวิต และคนไทยทั้งประเทศ
สำหรับความคืบหน้าเมื่อเวลา 22.40 น. วันที่ 2 ก.ค. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลงว่า จากการรายงานของหน่วยซีลล่าสุดที่เดินทางผ่านสามแยกในถ้ำเข้าไปและไปถึงหาดพัทยาบีช แต่เมื่อไปถึงพบว่าบริเวณหาดพัทยาบีชถูกน้ำท่วม เจ้าหน้าที่จึงเลยเข้าไป 400 เมตร ก่อนพบทั้ง 13 คนปลอดภัย แต่ภารกิจยังไม่สิ้นสุด เพราะตามแผนต้องนำน้ำออกให้หมดแล้วนำตัวเด็กออกมา ก่อนส่งพยาบาลและแพทย์เข้าไป
นายณรงค์ศักดิ์กล่าวอีกว่า ตอนนี้ต้องรอฟังรายงานจากภายในถ้ำอีก 2-3 ชม. ต้องรอให้แพทย์ประเมินในเรื่องสุขภาพแล้วประเมินการนำตัวทั้ง 13 ชีวิตออกมาอีกครั้ง จากนี้เตรียมจัดทีมหมอที่ดำน้ำเข้าไปดูอาการเด็กทั้ง 13 ชีวิต พร้อมนำอาหารเข้าไปด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าจะกินได้หรือไม่ จากนี้จะดำเนินการตามขั้นตอนจนกว่าจะเรียนหนังสือ
วันนี้ (3 ก.ค.) สถานการณ์ล่าสุด เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่กันอย่างต่อเนื่อง เผื่อให้ภารกิจพาน้อง ทีมหมูป่า และโค้ช รวม 13 คน ออกมาจากถ้ำหลวงให้ได้
ด้านเพจ “กองทัพเรือ Royal Thai Navy” เปิดเผยข้อมูลว่า นาวาเอก อนันต์ สุราวรรณ์ ผู้บังคับกรมรบพิเศษ 1 นสร.กร.ที่อยู่ภายในโถง 3 ได้อำนวยการ พร้อมวางแผนดังนี้ เฟส 1 ส่งนักดำ 4 นาย พร้อมอุปกรณ์ดำรงชีพ พาวเวอเจล เข้าทำการช่วยเหลือ และพักอาศัยเป็นเพื่อน พร้อมกับสำรวจโครงสร้างภายในให้อยู่ได้โดยปลอดภัย เฟส 2 ส่งนักดำพร้อมแพทย์เข้าทำการช่วยเหลือ และปรับสภาพอากาศเข้าไปภายในให้สามารถดำรงชีพได้อย่างสะดวกสบาย เฟส 3 เตรียมส่งอาหารเพิ่มเติมให้อยู่ได้ 4 เดือนเป็นอย่างน้อย ควบคู่กับการสอนดำน้ำให้ทั้ง 13 คน พร้อมกับยังคงดำรงการระบายน้ำตลอดเวลา
เพจเฟซบุ๊ก “โปลิศไทยแลนด์ - Police Thailand News” ได้โพสต์รูปภาพพร้อมระบุข้อคามว่า “ประมวลภาพ ทหาร กองทัพภาค 3 หลายหน่วย ทั้ง มทบ.37 พล.ร.17 ทหารม้า กกล. ผาเมือง ส.พัน.23 ร้อย.ฝรพ.3 กอง ร้อยลาดตระเวนระยะไกล (ร้อย.ลว.ไกล) พล.ร.4 และทหารม้า ร้อย.ลว.ไกล พล.ม.1 ระดมกำลังกันช่วยแบกขวดอากาศจากปากถ้ำ ระยะทาง 3 กม.ไปยังโถง 3 เพื่อสนับสนุน “หน่วยซีล” ที่กำลังเป็นความหวัง เป็นพระเอกในการค้นหาน้องๆ ทีมหมูป่าฯ”
และอีกโพสต์ระบุว่า “เครื่องบินลำเลียง C-130 H ของ ทอ.ที่มีอยู่ 12 เครื่อง ผลัดเปลี่ยนกันเข้าซ่อมบำรุง บ้างตามวงรอบ ...stand by และ on alert พร้อมออกบินทันที มีภารกิจ “ถ้ำหลวง” ไม่ว่าเวลาใด โดยเฉพาะ การลำเลียงอุปกรณ์ต่างๆ สนับสนุนหน่วยซีล โดยเฉพาะขวดอากาศ เครื่องอัด และนำหน่วยซีลอีก 20 นาย มาเสริมทัพ”
ต่อมาเวลา 15.27 น. แฟนเพจเฟซบุ๊ก "Thai NavySEAL" โพสต์ภาพร้อมข้อความระบุ พลเรือตรี อาภากร อยู่คงแก้ว ผบ.นสร. วางแผนร่วมกับหน่วยซีล และนักดำน้ำอาสาสมัครนานาชาติ เพื่อนำนักฟุตบอลทีมหมูป่าและโค้ช 13 คน ออกจากถ้ำ เมื่อร่างกายของทุกคนแข็งแรงเพียงพอแล้ว
ในขณะที่บริเวณห้องโถง 3 ถูกปรับให้เป็น บก.ใต้ดิน ลำเลียงขวดอากาศ อุปกรณ์ดำน้ำ อาหาร ยา ไปไว้พร้อมสรรพ สำหรับการเข้าไปนำตัวนักฟุตบอลออกมา และได้ส่งตัวหมอทหารเข้าไปตรวจสุขภาพเด็กทันที
รายงานแจ้งว่า ล่าสุด ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงปรับสภาพร่างกายของเด็ก ฝึกการหายใจด้วยขวดอากาศ การดำใต้น้ำ โดยเมื่อพร้อมใน 48 ชั่วโมง พี่เลี้ยงจะพาเด็กออกมา โดยใช้สายอากาศหายใจ 1 ขวด จะมี 2 สาย นักดำ 1 สายและอีก 1 สายให้เด็กใช้ในการหายใจ นำออกมาระยะทางที่ต้องดำน้ำไกลสุด 200 เมตร และมีพี่เลี้ยงนักดำประกบข้างออกมา
ต่อมาเวลา 17.01 น. เพจเฟซบุ๊ก “โปลิศไทยแลนด์ - Police Thailand News” ได้โพสต์รูปภาพพร้อมระบุข้อคามว่า "ทหารกองทัพ ภาค 3 เร่งเดินสายไฟไปยังระยะ 1,500 ม.ที่โถงที่ 3 เตรียมติดตั้งระบบสูบน้ำในระยะ 3,000 เมตร และโยงเชือก ขนขวดอากาศ เพื่อเตรียมการเคลื่อนย้าย ทีมหมูป่าฯ"
"กองทัพภาคที่ 3 จัดกำลังพล จาก กองกำลังผาเมือง , กองพลทหารราบที่ 7, กองพลทหารราบที่ 4, กองพลทหารม้าที่ 1, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 ,กองกำลังนเรศวร, มณฑลทหารบกที่ 37, มณฑลทหารบกที่ 34, จัดกำลังสนับสนุนภารกิจในการดำเนินการเดินสายไฟไปยังระยะ lระบบสูบน้ำในระยะ 3,000 เมตร และโยงเชือกเพื่อเตรียมการเคลื่อนย้ายทีมหมูป่า 13 ชีวิต"
"จากนั้น สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 15 และ สบร.15 ทยอยลำเลียงขวดอากาศเข้าไปในถ้ำ กว่า 70 ขวดไปเสริมให้เจ้าหน้าที่สำหรับเตรียมเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยทั้ง 13 คน โดยเจ้าหน้าที่ ได้เริ่มจัดระเบียบสถานที่ เส้นทาง เพื่อเคลียร์สิ่งของที่ไม่จำเป็น เพื่อเตรียมเคลื่อนย้ายทีมนักฟุตบอลหมูป่า 13 คน"