การประกาศความเสียหายจากสต๊อกวัตถุดิบ มูลค่าประมาณ 2,100 ล้านบาท ที่ล่องหนของ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC บริษัทลูกของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ไม่รู้ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้กลุ่ม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)หรือ PTT ทรุดลงหรือไม่
แต่หุ้นกลุ่ม PTT เมื่อวันจันทร์ที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ถูกเทขายอย่างหนัก จนร่วงกระจาย โดยเฉพาะบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ที่ทรุดลงแรง
สต๊อกวัตถุดิบมูลค่า 2,100 ล้านบาท ที่สูญหาย ทำให้ GGC ต้องตั้งสำรองตามจำนวนความเสียหาย และนำไปสู่การปรับลดราคาเป้าหมายหุ้น GGC และ PTTGC ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ GGC ต้องใช้เวลาประมาณ 4 ปี เพื่อสร้างผลกำไร ชดเชยความเสียหาย จากการทุจริตภายใน
โดยการ "ยกเค้า"น้ำมันปาล์มดิบจำนวนกว่า 7.1 หมื่นตันออกจากสต๊อก
กระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงในการปล้นสต๊อกวัตถุดิบของ GGC กำลังดำเนินไปอย่างเร่งรีบ โดยนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ขีดเส้นให้คณะกรรมการบริษัท ฯ รายงานผลสอบสวนภายใน 2 วัน ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ จะได้รู้กันว่า ใครร่วมขบวนการโกงบ้าง
คณะกรรมการตรวจสอบภายในของ GGC กำลังถูกเพ่งเล็ง โดยมีคำถามว่า มีความหละหลวมในการตรวจสอบการดำเนินงานหรือไม่ เพราะการที่สต๊อกน้ำมันปาล์ม จำนวนกว่า 7 หมื่นตัน หายไปนั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ โดยไม่มีคนรู้ระแคะระคาย ถ้าคณะกรรมการตรวจสอบภายในมีประสิทธิภาพในการตรวจสอบ
การทุจริตใน GGC ต้องทำกันเป็นขบวนการใหญ่ ประสานความร่วมมือกันหลายฝ่าย ทั้งคนในและคนนอก ซึ่งต้องเร่งสอบสวนดำเนินคดี และติดตามทรัพย์สินกลับคืนมาให้มากที่สุด เพื่อบรรเทาความเสียหายของผู้ถือหุ้น
ไม่เฉพาะผู้ถือหุ้น GGC เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากการปล้นเงียบสต๊อกวัตถุดิบ แต่ผู้ถือหุ้นของ PTTGC และผู้ถือหุ้นของ PTT ก็พลอยถูกลูกหลงไปด้วย เพราะราคาหุันถูกทุบไปด้วยกัน
ผลประกอบการของ GGC ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ชะลอตัวลงต่อเนื่อง โดยผลกำไรลดลง รวมทั้งไตรมาสแรกปีนี้ ซึ่งมีกำไรสุทธิ 63.94 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 144.96 ล้านบาท เมื่อมีข่าวร้ายการทุจริตภายในซ้ำเติม นักลงทุนจึงแห่ทิ้งหุ้น จนราคาสร้างจุดต่ำสุดนับแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
แม้ราคาหุ้น GGC จะเริ่มตั้งหลักได้ หลังจากซึมซับข่าวร้ายไปจนเต็มอิ่ม แต่ไม่ได้หมายความว่า ผลกระทบจากความเสียหายในสต๊อกวัตถุดิบ ที่ล่องหนจะหมดสิ้นลงแล้ว เพราะต้องรอประเมินความเสียหายที่แน่ชัดกันอีกครั้ง
และนอกเหนือจากการทุจริตสต๊อกวัตถุดิบแล้ว ยังมีธุรกรรมอื่น ที่ก่อความเสียหายให้ GGC อีกหรือไม่
นักลงทุนที่เข้าไปถือหุ้น GGC ส่วนใหญ่ไม่คิดว่า บริษัทในกลุ่ม PTT จะเกิดปัญหาทุจริต ไม่ได้เผื่อใจในความเสียหายจากการดำเนินงานที่ไม่มีความโปร่งใส จึงประเมินการลงทุนเพียงแค่ตัวเลขผลประกอบการของบริษัทเท่านั้น
แต่ทุกคนต้องเสียหายจากตัวแปรที่คาดไม่ถึง ต้องแบกรับผลกระทบจากความหละหลวมในการตรวจสอบการดำเนินงานภายในบริษัท และไม่อาจเรียกหาความรับผิดชอบจากใครได้
ต้องถือเป็นความซวยของนักลงทุนที่เข้าไปจับหุ้น GGC เพราะขาดทุนกันถ้วนหน้า และได้แต่รอการเยียวยาด้านจิตใจ
รอดูแก๊งที่ร่วมขบวนการปล้นวัตถุดิบของ GGC ถูกลากคอมาลงโทษเท่านั้น
(สั่งจองหนังสือ “หุ้นวายร้าย” ราคาเล่มละ 190 บาท จากราคาเต็ม 240 บาท โทร. 0-2629-2700 , 08-2782-8353 , 08-2782-8356 )