xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นกลุ่ม ปตท ร่วงยกแผงหลังพบสต๊อกลมใน GGC

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ราคาหุ้นกลุ่ม ปตท กอดคอร่วง หลังมีข่าวบริษัทลูก “โกลบอลกรีนเคมีคัล” วัตถุดิบในสต๊อกสูญกว่า 2 พันล้านบาท สวนภาวะตลาดหุ้นไทยที่ดัชนีบวก 11.69 จุด บล. โกลเบล็ก ประเมินความเสียหายเบื้องต้นที่ราว 2.05 บาทต่อหุ้น ด้าน บล. ทิสโก้ แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 9.40 บาทต่อหุ้น ปรับประมาณการ GGC ลง และแนะนำให้ “ถือ”

จากกรณีที่ บริษัท โกลบอลกรีนเคมีคัล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC แจ้งเมื่อวันศุกร์ที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา ว่าบริษัทพบข้อเท็จจริง ซึ่งบ่งชี้ว่า ข้อมูลในระบบ ณ วันที่ 31 พ.ค. 61 มีอยู่จำนวน 71,848 ตัน และเป็นส่วนที่บริษัทได้ชำระราคาไปทั้งหมดแล้วนั้น มีจำนวนที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญกับปริมาณวัตถุดิบคงคลังที่มีอยู่จริง ณ สถานที่เก็บรักษาวัตถุดิบที่ฝากไว้กับคู่ค้า คิดเป็นมูลค่าถึง 2,100 ล้านบาท และแม้บริษัทประเมินว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นตามที่ตรวจพบข้างต้นมิได้กระทบต่อความสามารถของบริษัทในการดำเนินธุรกิจ และการลงทุนตามแผนที่บริษัทได้กำหนดไว้ เนื่องจากบริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินที่สามารถรองรับการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน รวมถึงแผนการลงทุนในอนาคต

อย่างไรก็ตาม จากข่าวดังกล่าว ส่งผลให้ราคาหุ้น GGC ในวันนั้น ถูกถล่มแทบจมดิน ซึ่งระหว่างชั่วโมงซื้อขายราคาลงไปสร้างจุดต่ำสุดใหม่นับแต่เข้าซื้อขายที่ 8.80 บาท ก่อนจะกระเตื้องขึ้นมาปิดที่9.25 บาท ลดลง2.95บาท หรือลดลง 24.18%

ขณะที่วันนี้ (2 ก.ค.) หุ้นในกลุ่ม ปตท ยังคงถูกขายอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาปรับตัวลดลง สวนทางกับภาวะตลาดที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (1 ก.ค.) ปิดบวกที่ 1,607.27 จุด เพิ่มขึ้น 11.69 จุด มูลค่าซื้อขาย 48,276.73 ล้านบาท

โดยราคาหุ้น บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ปิดที่ 47.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.52% มูลค่าซื้อขาย 3,139.89 ล้านบาท บริษัท พีทีที โกลบอล เคมีคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ปิดที่ 71.25 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 2.40% มูลค่าซื้อขาย 2,659.30 ล้านบาท บริษัท โกลบอลกรีนเคมีคัล จำกัด(มหาชน)หรือ GGC ปิดที่ 8.95 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 3.24% มูลค่าซื้อขาย 215.30 ล้านบาทและบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ปิดที่ 132.50 บาท ลดลง 8.00 บาท หรือ 5.69% มูลค่าซื้อขาย 2,343.54 ล้านบาท

บล. โกลเบล็ก โดยฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า จากการประเมิน GGC พบว่า จากที่เกิดกรณีแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาการตรวจพบกระบวนการจัดหาวัตถุดิบและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัท โดย ณ วันที่ 31 พ.ค. 61 พบปริมาณวัตถุดิบคงคลัง 71,848 ตัน ซึ่งบริษัทชำระราคาไปแล้ว ขาดหายไป คิดเป็นมูลค่ารวม 2.1 พันล้านบาท ซึ่ง บล. โกลเบล็ก ประเมินเบื้องต้น วัตถุดิบคงคลังขาดหายไปมูลค่าราว 2.1 พันล้านบาทนั้น ฝ่ายวิจัยประเมินความเสียหายเบื้องต้นจากข่าวดังกล่าวอยู่ที่ราว 2.05 บาทต่อหุ้น ซึ่งราคาหุ้นได้ปรับตัวลงตอบสนองต่อข่าวไปแล้ว ส่วน PTTGC จะมีผลกระทบประมาณ 0.3-0.5 บาทต่อหุ้น

บล. ทิสโก้ ประเมินว่า ข่าวของ GGC ที่แจ้งมีรายการวัตถุดิบหายไปจากคลังอาจมีสาเหตุจากพนักงานที่ฉ้อโกงร่วมกับบริษัทภายนอก โดย GGC จะบันทึกการตั้งสำรองในไตรมาส 2 ปีนี้ โดยมีมูลค่าสูงถึง 2.1 พันล้านบาท หรือ 2.05 บาทต่อหุ้น ขึ้นอยู่กับ GGC จะสามารถหาคนที่ทำผิดได้หรือไม่ และ GGC กำลังอยู่ระหว่างการคุยกับบริษัทประกัน ซึ่ง บล. ทิสโก้ เชื่อว่า กรณีการฉ้อโกงประกันจะไม่มีการรับผิดชอบ และเพื่อลดผลกระทบต่อการดำเนินงาน GGC จะต้องซื้อวัตถุดิบใหม่ เพื่อให้ส่งมอบสินค้าได้ตามคำสั่งของลูกค้าจะเป็นปัจจัยที่กดดันอัตรากำไรเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม บล. ทิสโก้ ปรับประมาณการของ GGC ลงสะท้อนผลประกอบการไตรมาสแรกที่อ่อนแอ และการตั้งสำรอง 2.1 พันล้านบาท แม้ว่าการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้น 60% เทียบกับปีก่อน เป็น 963 ล้านบาท เนื่องจากเดิมมีรายการขาดทุนจากสต๊อกในปี 2017 ที่ 664 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม วัตถุดิบที่หาย 2.1 พันล้านบาท จะทำให้ผลประกอบการปีนี้ขาดทุน 1.14 พันล้านบาท ก่อนที่จะฟื้นตัวในปี 2019 ดังนั้น จึงปรับ PBV ที่เหมาะสมลงจาก 1.4 เท่า เป็น 1 เท่า ทำให้มูลค่าที่เหมาะสมลดลงจาก 16.80 บาท เป็น 9.40 บาท แม้ว่าจะมีข่าวร้าย แต่แนะนำให้ “ถือ” จากราคาหุ้นที่ลดลงมากกว่าวัตถุดิบที่หาย มีความเสี่ยงในเชิงบวก คือ การฟ้องร้องค่าเสียหายจากผู้ที่ต้องรับผิดชอบ แต่ค่าเงินบาท และวัตถุดิบที่แพงขึ้น เป็นปัจจัยกดดัน


กำลังโหลดความคิดเห็น