พฤกษา รุกหนักกลุ่มตลาดทาวน์เฮาส์ เร่งขยายสู่หัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด วางเป้า 2 ปีข้างหน้าให้ครอบคลุม 20 จังหวัด พร้อมปักธงโครงการในอีอีซี หวังแชร์ตลาดทาวน์เฮาส์ 60,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเปิด 44 โครงการ มูลค่ากว่า 27,000 ล้านบาท ดันพอร์ตโครงการทาวน์เฮาส์ มีมูลค่าทะลุกว่า 120,000 ล้านบาท ดึงบิ๊กเดต้าลูกค้า 1.6 ล้านคน วิเคราะห์เชิงลึกเพิ่มยอดขาย ผนึก 4 แบงก์รายใหญ่ปล่อยสินเชื่อรายย่อย คาดยอดโอนปีนี้ 23,000 ล้านบาท
นายธีรเดช เกิดสำอางค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจทาวน์เฮาส์ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS กล่าวถึงภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในปี 2561 คาดว่าจะมีมูลค่าตลาดประมาณ 479,487 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% โดยเฉพาะในส่วนของตลาดทาวน์เฮาส์ คาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มเป็น 88,705 ล้านบาท เติบโตขึ้น 14% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ที่มูลค่าตลาดทาวน์เฮาส์ อยู่ที่ 77,927 ล้านบาท ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจทาวน์เฮาส์ ยังถือเป็นพอร์ตหลักของพฤกษา ซึ่งในปีนี้ พฤกษาได้ตั้งเป้าตัวเลขพรีเซลส์รวมอยู่ที่ 22,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าส่วนแบ่งตลาดของพฤกษา ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะรักษาไว้ที่ระดับ 22% (ยอดพรีเซลส์ 19,710 ล้านบาท) ปัจจุบัน ตัวเลข 6 เดือนแรก กลุ่มธุรกิจทาวน์เฮาส์ สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 9,000 ล้านบาท
“ในพอร์ตของพฤกษา มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายรวม 117 โครงการ มูลค่าสูงถึง 92,900 ล้านบาท และในปีนี้จะเปิดอีก 44 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 27,853 ล้านบาท เป็นส่วนของกรุงเทพฯ และปริมณฑล 34 โครงการ มูลค่า 20,000 ล้านบาท และต่างจังหวัด 10 โครงการ มูลค่า 6,057 ล้านบาท หลักๆ จะเป็นแบรนด์บ้านพฤกษา ที่เปิดมากสุด 43% จำนวน 19 โครงการ ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะสอดคล้องกับนโยบายที่ทางพฤกษา ที่ตั้งเป้ารักษาความเป็นเจ้าตลาด โดยมีแผนขยับไปเจาะกลุ่มทาวน์เฮาส์ ในระดับราคา 5-7 ล้านบาท โดยยังคงรุกตลาดระดับกลางราคา 1.5-2 และ 2-3 ล้านบาท ซึ่งบริษัทเป็นผู้นำตลาดในระดับราคานี้อยู่แล้ว และจะพัฒนาตลาดในระดับราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ "
นอกจากนี้ ทางพฤกษา ยังมีแผนรุกตลาดต่างจังหวัด จากที่ได้ลงทุนไว้ก่อนแล้ว เช่น จังหวัดภูเก็ต, อยุธยา, เชียงใหม่, ชลบุรี, ระยอง โดยวางเป้าหมายจากนี้อีก 2 ปี จะให้มีโครงการเกิดขึ้นอย่างน้อย 2 โครงการครอบคลุม 20 จังหวัด เช่น การเข้าไปเพิ่มตลาดในจังหวัดเชียงราย, พิษณุโลก, ขอนแก่น, โคราช, สระบุรี, สุราษฎร์ธานี และสงขลา เป็นต้น โดยเฉพาะการขยายตลาดในพื้นที่เขตโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ที่เป็นหัวเมืองท่องเที่ยวและนิคมอุตสาหกรรม เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีมูลค่าตลาดใหญ่สูงเกือบ 60,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการที่จะเปิดตัวในปีนี้มีที่ดินรองรับไว้หมดแล้ว พร้อมได้จัดซื้อที่ดินรองรับโครงการในปี 62 ไว้เกินกว่าเป้าที่วางไว้
“การเข้าไปพัฒนาโครงการของพฤกษา ในต่างจังหวัด จะพิจารณาเรื่องขนาดของตลาดที่มีมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นได้ว่าจังหวัดที่เข้าไปเปิดตลาดแล้ว จะมีมูลค่าสูง เช่น จังหวัดชลบุรี มีมูลค่าตลาด 45,000 ล้านบาท เชียงใหม่ 15,000 ล้านบาท หรือแม้แต่ภูเก็ต มีมูลค่าถึง 17,000 ล้านบาท แต่ในบางจังหวัด เราเข้าไปลงทุน เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ทั้งนี้ ตัวเลขพรีเซลส์ที่มาจากตลาดจังหวัดในปีนี้จะมีมูลค่า 3,000 ล้านบาท สัดส่วนจะไม่มากประมาณ 12-15% เมื่อเทียบกับตัวเลขจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งในแต่ละปี โครงการทาวน์เฮาส์ในต่างจังหวัดจะเติบโตประมาณ 10-15%”
นายธีรเดช กล่าวถึงรายละเอียดโครงการไฮไลท์ที่เปิดตัวในครึ่งปีหลัง ที่จะมีดีไซน์ที่เป็นโมเดิร์นมากขึ้น และตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน เช่น แบรนด์ พฤกษาวิลล์ เหมาะกับลูกค้าที่ต้องการบ้านหลังแรก อาทิ โครงการพฤกษาวิลล์ รามคำแหง-วงแหวน อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้ามหานครสายสีส้ม ราษฎร์พัฒนา เป็นรูปแบบทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น มูลค่าโครงการ 1,647 ล้านบาท จำนวน 482 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท เปิดขายเดือน ส.ค. นี้ โครงการแบรนด์พาทิโอ เน้นทำเลใกล้เมืองหรือเกือบในเมืองแล้ว และไม่นิยมอาศัยอยู่ในคอนโดฯ โดยขนาดโครงการไม่ใหญ่เน้นพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้น โดยจะเปิดโครงการ พาทิโอ พัฒนา 32 รูปแบบทาวน์โฮม 3 ชั้น มูลค่า 435.84 ล้านบาท จำนวน 81 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 4.29 ล้านบาท แบรนด์ เดอะ คอนเนค เน้นการเดินทางที่สะดวกสบาย โดยจะเปิดโครงการเดอะ คอนเนค วงแหวน-พระราม 9 มูลค่าโครงการ 825 ล้านบาท จำนวน 234 ยูนิต ราคา 2.89 ล้านบาท เปิดขายในเดือน ก.ย.
“กลยุทธ์ในการสร้างความเติบโต เราจะยึดแนวทางและโฟกัสในส่วนของพฤกษา เป็นหลัก ซึ่งนอกจากตลาดกลุ่มระดับราคา 2-3 ล้านบาท ซึ่งพอร์ตหลักของพฤกษาแล้ว จะมีการเพิ่มกลุ่มลูกค้าระดับราคา 5-7 และ 7-10 ล้านบาท โดยมีแบรนด์พาทิโอ ในการรุกตลาด ทั้งนี้ พฤกษาจะมีการนำฐานข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่กว่า 1.6 ล้านคน ซึ่งเป็นบิ๊กเดต้าที่ใหญ่มาก มาประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อนำมาพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด ซึ่งคาดว่าจะมาเป็นลูกค้าของพฤกษา ในส่วนนี้ 2 แสนคน ขณะเดียวกัน พฤกษายังได้ผนึกกับพันธมิตรสถาบันการเงิน ในการทำข้อมูลสนับสนุนสินเชื่อให้กับลูกค้ากลุ่มทาวน์เฮาส์ ที่คาดว่าปีนี้จะมียอดโอนประมาณ 23,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีธนาคารอาคารสงเคราะห์, ไทยพาณิชย์, กสิกรไทย และกรุงศรีอยุธยา ที่สนับสนุนสินเชื่อในพอร์ตหลัก”